นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าว นายธนพร ศรียากูล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมยื่นฟ้องร้องตน และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต กรณีออกหนังสือเวียนมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน เกี่ยวกับนโยบายการขายแป้งมันสำปะหลัง ว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบกรณีที่ไม่อนุมัติให้ขายแป้งมันสำปะหลังให้กับรัฐบาลจีน ในวันที่ 9 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้นั้น เห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นสิทธิ์ของนายธนพร หากเห็นว่าเสียประโยชน์ แต่ยืนยันว่าตนเองได้ปฏิบัติตามหน้าที่เพราะไม่สามารถตอบคำถามประชาชนได้ว่าในเมื่อรัฐบาลขายมันสำปะหลังในสต๊อกของรัฐบาลให้กับเอกชนไทยในราคาสูงถึง 8,300 บาทต่อตัน แต่ทำไมจึงขายให้รัฐบาลจีนเพียงตันละ 7,960 บาท ขณะเดียวกันยังไม่ต้องการให้รัฐบาลขาดทุนมากขึ้นเพราะที่ผ่านมาได้ใช้เงินเข้าไปแทรกแซงราคามันสำปะหลังตามโครงการรับจำนำที่สูงมาก รวมทั้งปัจจุบันรัฐบาลมีสตอกแป้งมันสำปะหลังเหลืออยู่เพียง 300,000 ตันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการขายให้กับรัฐบาลแอฟริกาที่ยากจนกว่าไทย หรือขายข้าวให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ในราคาถูก หรือแม้แต่ขายให้รัฐบาลจีนเพื่อนำไปช่วยคนยากจนไม่ใช่เชิงพาณิชย์ก็ยินดีที่จะให้ขายและในมติของคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังได้ระบุว่าให้กลับไปเจรจากับจีนอีกครั้งไม่ได้หมายความว่าให้ยุติการขายแต่อย่างใด
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังและเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงพาณิชย์ ถือว่ามีอำนาจเพียงพอที่จะนำมติของคณะกรรมการฯ เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม. ขณะที่เห็นว่าเป็นเรื่องนโยบายที่สำคัญและรู้สึกเป็นกังวลจึงได้นำเรื่องหารือ ครม. และนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ครม.เห็นชอบและให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง โดยยืนยันว่ากระบวนการนำเรื่องเสนอเข้า ครม.ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ดำเนินการตามปกติอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการขายให้กับรัฐบาลแอฟริกาที่ยากจนกว่าไทย หรือขายข้าวให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ในราคาถูก หรือแม้แต่ขายให้รัฐบาลจีนเพื่อนำไปช่วยคนยากจนไม่ใช่เชิงพาณิชย์ก็ยินดีที่จะให้ขายและในมติของคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังได้ระบุว่าให้กลับไปเจรจากับจีนอีกครั้งไม่ได้หมายความว่าให้ยุติการขายแต่อย่างใด
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังและเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงพาณิชย์ ถือว่ามีอำนาจเพียงพอที่จะนำมติของคณะกรรมการฯ เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม. ขณะที่เห็นว่าเป็นเรื่องนโยบายที่สำคัญและรู้สึกเป็นกังวลจึงได้นำเรื่องหารือ ครม. และนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ครม.เห็นชอบและให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง โดยยืนยันว่ากระบวนการนำเรื่องเสนอเข้า ครม.ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ดำเนินการตามปกติอยู่แล้ว