นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทางการไทยได้เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กลับประเทศเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เพื่อประท้วงกรณีรัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว และเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากการกระทำนี้ถือเป็นการแทรกแซงการเมืองภายในของประเทศไทย
"จึงเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ รวมทั้งเป็นการแสดงความไม่เคารพและไม่ยอมรับต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย รัฐบาลจึงไม่สามารถอยู่เฉยได้ ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศจะต้องดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธิและความรู้สึกของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
โดยในเบื้องต้น กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการขั้นแรก คือ เรียกตัวเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ กลับประเทศ"
ขณะที่จะมีการทบทวนความร่วมมือและการให้ความช่วยเหลือทั้งหมดระหว่างไทยกับกัมพูชา รวมถึงสนธิสัญญาต่างๆ ในแง่ที่กัมพูชามีผลประโยชน์กับไทย
"ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ความไม่ชอบมาพากล หรือสิ่งที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนในอดีตที่ผ่านมา ตรงนี้ก็จะเป็นเวทีที่มีการชำระกันทั้งหมด ประเด็นที่ 3 คือว่า สิ่งต่างๆ ที่จะเริ่มดำเนินการ หรือกำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ก็คงต้องเรียนว่า ก็คงมีความยากลำบากมากขึ้นในการที่จะเดินหน้าต่อ"
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายอภิสิทธิ์ระบุว่า แถลงการณ์แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฮุน เซน นั้นกระทบต่อความรู้สึกของคนไทย และมีการพาดพิงถึงกระบวนการยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศจะตอบโต้ตามขั้นตอนทางการทูต โดยไม่ให้กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และไม่ถึงขั้นมีการปิดพรมแดนและตัดความช่วยเหลือที่ให้ชาวกัมพูชา แต่การช่วยเหลือแบบรัฐต่อรัฐ เช่น เงินกู้นั้น กระทรวงการต่างประเทศก็จะพิจารณาอีกครั้ง
"จึงเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ รวมทั้งเป็นการแสดงความไม่เคารพและไม่ยอมรับต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย รัฐบาลจึงไม่สามารถอยู่เฉยได้ ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศจะต้องดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธิและความรู้สึกของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
โดยในเบื้องต้น กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการขั้นแรก คือ เรียกตัวเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ กลับประเทศ"
ขณะที่จะมีการทบทวนความร่วมมือและการให้ความช่วยเหลือทั้งหมดระหว่างไทยกับกัมพูชา รวมถึงสนธิสัญญาต่างๆ ในแง่ที่กัมพูชามีผลประโยชน์กับไทย
"ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ความไม่ชอบมาพากล หรือสิ่งที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนในอดีตที่ผ่านมา ตรงนี้ก็จะเป็นเวทีที่มีการชำระกันทั้งหมด ประเด็นที่ 3 คือว่า สิ่งต่างๆ ที่จะเริ่มดำเนินการ หรือกำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ก็คงต้องเรียนว่า ก็คงมีความยากลำบากมากขึ้นในการที่จะเดินหน้าต่อ"
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายอภิสิทธิ์ระบุว่า แถลงการณ์แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฮุน เซน นั้นกระทบต่อความรู้สึกของคนไทย และมีการพาดพิงถึงกระบวนการยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศจะตอบโต้ตามขั้นตอนทางการทูต โดยไม่ให้กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และไม่ถึงขั้นมีการปิดพรมแดนและตัดความช่วยเหลือที่ให้ชาวกัมพูชา แต่การช่วยเหลือแบบรัฐต่อรัฐ เช่น เงินกู้นั้น กระทรวงการต่างประเทศก็จะพิจารณาอีกครั้ง