ผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐบาลกัมพูชาเริ่มรณรงค์ทางการทูตอีกครั้งหนึ่งหลังจากเกิดการปะทะด้วยอาวุธกับไทยที่ชายแดน ขณะที่ปากพร่ำเพ้อยังใฝ่สันติวิธีในการแก้ไขปัญหา ส่วนอีกทางหนึ่งก็สั่งให้ทูตฟ้องต่อองค์การสหประชาชาติ
นายฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาได้เชิญทูตานุทูตที่ประจำในกรุงพนมเปญ ยกเว้นเพียงทูตไทย เข้ารับฟังการชี้แจงในตอนค่ำวันพุธ (15 ต.ค.) หรือเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการปะทะกับไทย ซึ่งมีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นายกับอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บ
นายฮอร์ แถลงกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมา ระบุว่า ได้สั่งให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นและขอให้เรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงเพื่อพิจารณาเรื่องนี้
กัมพูชากำลังมองหาทุกวิธีการทางการทูตเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาชายแดนกับไทย นายฮอร์กล่าว
“ผมเพิ่งจะบอกกับบรรดาทูตานุทูตไปเกี่ยวกับการปะทะกันด้วยอาวุธกับฝ่ายไทย ผมได้บอกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า เราได้อดทนอย่างถึงที่สุดจนกระทั่งบัดนี้ แต่เรามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเองและโต้ตอบอย่างเหมาะสมสำหรับกรณีนี้” รมว.ต่างประเทศกัมพูชา กล่าว
อย่างไรก็ตาม “เราปรารถนาที่จะแก้ไขปัญหานี้ด้วยสันติวิธี” และยืนยันว่า จะเข้าร่วมการเจรจาทางทหารระดับท้องถิ่นกับฝ่ายไทยต่อไปในวันพฤหัสบดีนี้
“รัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาขอหยิบยกอีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับความมุ่งมั่นที่จะใช้ความอดกลั้นอย่างถึงที่สุด ตลอดจนจะใช้วิธีเจรจาและทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศไทย เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยอาวุธในขอบเขตที่ใหญ่โตระหว่างสองประเทศ”
อย่างไรก็ตาม รมว.ต่างประเทศกัมพูชา กล่าวหาว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายยิงก่อน และฝ่ายกัมพูชามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัวเอง
ระหว่างการปะทะกันนั้น ฝ่ายกัมพูชาสามารถจับกุมทหารไทยได้จำนวน 10 คน ซึ่งสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแลคนทั้งหมดเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะส่งมอบให้แก่ฝ่ายไทยหากมีการร้องขอ
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันรัฐบาลกัมพูชาได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งกล่าวหาว่า ทหารไทยได้โจมตีทหารกัมพูชาใน 3 จุดด้วยกัน และทั้งหมดอยู่ลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชา
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ได้ปฏิเสธการกล่าวหาของฝ่ายกัมพูชา โดยระบุว่าทหารฝ่ายนั้นเริ่มยิงก่อน ทำให้ทหารไทยต้องต่อสู้ป้องกัน มีทหารไทย 5 นายได้รับบาดเจ็บในการประทะกันครั้งนี้