นายปีเตอร์ วอลค์เกอร์ กรรมการอาวุโสของบริษัท แกรนท์ ธอร์นตัน ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและจัดอันดับทางธุรกิจ เปิดเผยผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติ ประจำปี 2009 จากกลุ่มตัวอย่างธุรกิจ 300 แห่งในประเทศไทย โดยระบุว่า นักธุรกิจในไทยมีความรู้สึกด้านเศรษฐกิจติดลบถึงร้อยละ 20 เทียบกับค่าเฉลี่ยของโลกที่ติดลบร้อยละ 5 และในเอเชียแปซิฟิกที่ติดลบร้อยละ 6 ขณะเดียวกัน ยังพบว่าธุรกิจระดับโลกให้ความสนใจเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีใหม่ๆ การควบรวมกิจการ และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เทียบกับไทยซึ่งมุ่งเน้นเพียงการปรับผู้บริหารใหม่ และการแข่งขันด้านราคา แต่เชื่อว่าการลดราคาจะเป็นเพียงช่วงระยะสั้นๆ ในช่วงเศรษฐกิจขาลงเท่านั้น
สำหรับแรงงานที่นักธุรกิจไทยเห็นว่าขาดแคลน คือภาคการเงิน และแรงงานที่มีทักษะทางด้านการตัดสินใจ
ส่วนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเชื่อว่าจะอยู่ในรูปแบบตัว W แต่จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลา
ในกรณีของมาบตาพุด พบว่าบริษัทต่างชาติให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว แต่ยังมีความกังวลจากรัฐบาลที่ยังไม่มีความชัดเจนในการจัดการ ทำให้นักลงทุนไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคตได้ และในอีก 10-20 ปี เรื่องสิ่งแวดล้อมจะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะมีการตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น
ซึ่งผลสำรวจเรื่องของนักธุรกิจไทยด้านสิ่งแวดล้อม พบว่าร้อยละ 68 มุ่งเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม และร้อยละ 99 เต็มใจรักษาสิ่งแวดล้อมแม้จะกระทบต่อรายได้ก็ตาม
สำหรับแรงงานที่นักธุรกิจไทยเห็นว่าขาดแคลน คือภาคการเงิน และแรงงานที่มีทักษะทางด้านการตัดสินใจ
ส่วนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเชื่อว่าจะอยู่ในรูปแบบตัว W แต่จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลา
ในกรณีของมาบตาพุด พบว่าบริษัทต่างชาติให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว แต่ยังมีความกังวลจากรัฐบาลที่ยังไม่มีความชัดเจนในการจัดการ ทำให้นักลงทุนไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคตได้ และในอีก 10-20 ปี เรื่องสิ่งแวดล้อมจะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะมีการตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น
ซึ่งผลสำรวจเรื่องของนักธุรกิจไทยด้านสิ่งแวดล้อม พบว่าร้อยละ 68 มุ่งเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม และร้อยละ 99 เต็มใจรักษาสิ่งแวดล้อมแม้จะกระทบต่อรายได้ก็ตาม
