นายพงสะหวัด บุปผา รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศลาว ระบุว่า พายุโซนร้อนกิสนา ที่พัดถล่มหลายจังหวัดทางภาคใต้ของลาว เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ ลาวจึงขอร้องให้บรรดามิตรประเทศ และประชาคมโลกให้ความช่วยเหลือการบรรเทาทุกข์ภัยน้ำท่วม และเหตุฉุกเฉินในทันที
นายพงสะหวัด กล่าวว่า พื้นที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือ แขวงอัตตะปือ ซึ่งอยู่บริเวณพรมแดนติดกับกัมพูชา ที่น้ำท่วมในหมู่บ้าน 99 แห่ง และส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 70,000 คน พื้นที่เกษตรกรรม 93,750 ไร่ และทำให้ปศุสัตว์ล้มตายอีกหลายพันตัว ส่วนความเสียหายโดยรวมของพื้นที่ประสบภัยทั่วประเทศอยู่ที่ 836,000 ล้านกีบ (ราว 3,300 ล้านบาท) มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 11 คน เป็นคนงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำในแขวงอัตตะปือ 9 คน ส่วนอีก 2 คนอยู่ในแขวงสาละวัน แตกต่างกับตัวเลขของกาชาดลาว ที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 16 คน ในจำนวนนั้น 13 คนเป็นคนงานชาวเวียดนามที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
ด้านองค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศ ระบุว่า ได้จัดส่งอาหาร เวชภัณฑ์ และความช่วยเหลือฉุกเฉินอื่นๆ แก่ผู้ประสบภัยแล้ว
นายพงสะหวัด กล่าวว่า พื้นที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือ แขวงอัตตะปือ ซึ่งอยู่บริเวณพรมแดนติดกับกัมพูชา ที่น้ำท่วมในหมู่บ้าน 99 แห่ง และส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 70,000 คน พื้นที่เกษตรกรรม 93,750 ไร่ และทำให้ปศุสัตว์ล้มตายอีกหลายพันตัว ส่วนความเสียหายโดยรวมของพื้นที่ประสบภัยทั่วประเทศอยู่ที่ 836,000 ล้านกีบ (ราว 3,300 ล้านบาท) มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 11 คน เป็นคนงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำในแขวงอัตตะปือ 9 คน ส่วนอีก 2 คนอยู่ในแขวงสาละวัน แตกต่างกับตัวเลขของกาชาดลาว ที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 16 คน ในจำนวนนั้น 13 คนเป็นคนงานชาวเวียดนามที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
ด้านองค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศ ระบุว่า ได้จัดส่งอาหาร เวชภัณฑ์ และความช่วยเหลือฉุกเฉินอื่นๆ แก่ผู้ประสบภัยแล้ว