นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี2550 ในฐานะประธานชมรม ส.ส.ร.50 กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามแนวทางที่คณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย รัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา ได้หารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั้น ชัดเจนแล้วว่า มีสาระเพื่อให้นักการเมืองได้ประโยชน์ ส่วนอาการเดินลุยของนายอภิสิทธิ์ เพราะไปรับปากกับฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ โดยเฉพาะกับพรรคร่วมรัฐบาลจึงเป็นคำพูดที่มัดคอตัวเอง ตอนนี้จึงต้องเดินหน้าต่อ
ทั้งนี้ ตนมองว่าเกมแก้รัฐธรรมนูญยังเป็นผลดีต่อนายกรัฐมนตรี และพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแม้จะถูกครหาว่าใช้เงิน 2 พันล้านบาทไปทำประชามติ เพราะหากประชาชนออกมาคัดค้านนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เสีย เพราะถือว่าได้ผลักดันแล้ว หรือเมื่อทำประชามติไปแล้วประชาชนไม่เห็นด้วย รัฐบาลก็อยู่ได้ยาว เพราะดูประเด็นแล้ว เห็นว่าถึงแก้ไปก็ไม่เกิดสมานฉันท์ ประชาชนก็ไม่รับ ดังนั้นที่ผ่านมาจึงเป็นเพียงการลดแรงเสียดทานของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งในวันที่ 6 ตุลาคม ชมรม ส.ส.ร.50 ได้นัดหารือและจะออกแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนต่อไป โดยจะนำผลการหารือของนายกรัฐมนตรี กับแกนนำตัวจริงของพรรคร่วมมาพูดคุยกันด้วย
ทั้งนี้ ตนมองว่าเกมแก้รัฐธรรมนูญยังเป็นผลดีต่อนายกรัฐมนตรี และพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแม้จะถูกครหาว่าใช้เงิน 2 พันล้านบาทไปทำประชามติ เพราะหากประชาชนออกมาคัดค้านนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เสีย เพราะถือว่าได้ผลักดันแล้ว หรือเมื่อทำประชามติไปแล้วประชาชนไม่เห็นด้วย รัฐบาลก็อยู่ได้ยาว เพราะดูประเด็นแล้ว เห็นว่าถึงแก้ไปก็ไม่เกิดสมานฉันท์ ประชาชนก็ไม่รับ ดังนั้นที่ผ่านมาจึงเป็นเพียงการลดแรงเสียดทานของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งในวันที่ 6 ตุลาคม ชมรม ส.ส.ร.50 ได้นัดหารือและจะออกแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนต่อไป โดยจะนำผลการหารือของนายกรัฐมนตรี กับแกนนำตัวจริงของพรรคร่วมมาพูดคุยกันด้วย