“ประธานวิปฝ่ายค้าน” ฉุนนายกฯ ฉะใจร้อน รวบรัดตั้งธงทำประชามติ ระบุ ควรฟังวิป 3 ฝ่ายก่อน ชี้ พยายามชี้นำความคิด อ้างไม่คัดค้านทำประชามติ แต่ขออยู่ในกรอบกฎหมาย กล่าวหาไม่ได้ประโยชน์ ไปประชุมต่างประเทศ บอกเอาเรื่องการเมืองภายในไปคุยในเวทีโลก
วานนี้ ที่พรรคเพื่อไทย นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนเรื่องการทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น วิป 3 ฝ่าย มีกำหนดจะคุยกับนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 ต.ค.จึงแปลกใจว่า ทำไมนายกฯ จึงไม่รอฟังความคิดเห็นของวิปทั้ง3 ฝ่าย ก่อนว่าคิดอย่างไร ทั้งที่นายกฯย้ำมาตลอดว่าพร้อมรับฟังความคิดเห็น แต่การให้สัมภาษณ์กลับพยายามชี้นำความคิดอยู่ตลอด
“พรรคเพื่อไทยไม่คัดค้านเรื่องการทำประชามติ แต่ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย และถ้าเป็นเรื่องใหญ่ๆ เช่น เห็นชอบรัฐธรรมนูญทั้งฉบับก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามาทำประชามติ 6 ประเด็นปลีกย่อย ก็ต้องมาหารือกัน เพราะเรื่องนี้ใช้งบประมาณมหาศาล ส่วนเรื่องเงื่อนเวลานั้น นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล บอกว่า จะแก้ไขเสร็จภายใน 6 เดือน แต่นายกรัฐมนตรีเพิ่งกลับจากต่างประเทศไม่ถึง 24 ชั่วโมง บอกว่า แก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน 9 เดือน ทำไมถึงไม่คุยกันก่อน” นายวิทยา ย้ำ
เมื่อถามว่า สาเหตุที่นายกฯ เสนอให้มีการทำประชามติ เพราะต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม นายวิทยา กล่าวว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนมีหลายช่องทาง เช่น ให้ประชาชนโหวตความคิดเห็น ออกทีวีแสดงความคิดเห็น หรือการทำสมัชชาประชาชน สำหรับข้อเสนอให้ยุบสภาหลังแก้รัฐธรรมนูญเสร็จนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ตามหลักการเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ ก็สมควรจะยุบสภา เพราะจะถือว่าเป็นการมีส่วนร่วมของประชาชนที่แท้จริง
ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังกล่าวถึงการประชุมคณะทำงานยุทธศาสตร์ของพรรคในวันนี้ ว่า ที่ประชุมได้มีการคุยกันเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเห็นว่า รัฐบาลไม่เอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ มัวแต่ยุ่งเรื่องการเมือง โดยจะตั้งทีมเศรษฐกิจเข้าไปรับฟังปัญหาของพ่อค้าประชาชน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังวิเคราะห์ถึงการที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติ ว่า ไม่ได้เกิดผลประโยชน์อะไรกับประเทศไทย เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เพราะ นายอภิสิทธิ์ คงคิดว่าเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มากกว่านายกรัฐมนตรี และนำเรื่องการเมืองภายในไปเล่าให้ต่างชาติฟัง
