ส.ส.แหกคอกประชาธิปัตย์ อ้างพบเขมรเตรียมเซ็นสัญญายุ่น เปิดบ่อสัมปทาน้ำมันพื้นที่ทับซ้อน แต่รัฐกลับเฉย เชื่อประวิงเวลาหวังให้แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 190 ก่อน จะได้ไม่ต้องนำเรื่องเข้าหารือรัฐสภา สมประโยชน์นักการเมือง
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งดำเนินการเจรจากับกัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากขณะนี้กัมพูชาได้มีการเซ็นสัญญาเปิดสัมปทานขุดน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนให้กับประเทศญี่ปุ่น โดยมีผลประโยชน์มูลค่าหลายแสนล้านบาท ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวประเทศไทยต้องรับรู้ร่วมกันเพราะเป็นพื้นที่ทับซ้อนกันอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์ในขณะที่เป็นฝ่ายค้านได้เรียกร้องและติดตามเรื่องนั้นมาโดยตลอด แต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลกลับเงียบหายไป
นายเกียรติกรกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะมาตรา 190 ซึ่งน่าสังเกตว่ารัฐบาลต้องการประวิงเวลาเพื่อให้การแก้ไขเสร็จเรียบร้อยก่อน เพราะหากมีการเซ็นสัญญาประเทศไทยจะต้องร่วมลงนามด้วยและต้องนำเข้ารัฐสภาเพื่ออนุมัติ แต่รัฐบาลกลับไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ เป็นเพราะต้องการให้มีการแก้ไขมาตรา 190 ก่อนหรือไม่ เพื่อไม่ต้องนำเรื่องเข้าขอมติจากรัฐสภาอีก ซึ่งตนเห็นว่ามีกลุ่มคนที่จะได้ผลประโยชน์จากพื้นที่ทับซ้อนนี้ คือนักการเมือง ไม่ใช่ประชาชน ดังนั้นจึงฝากถามนายกรัฐมนตรีว่าหากเดินทางกลับประเทศไทยแล้วจะเปิดการเจรจาเรื่องดังกล่าวหรือไม่อย่างไร และผลประโยชน์ในสัญญาดังกล่าวมีมูลค่าเท่าใด ซึ่งตนเชื่อว่าการเซ็นต์สัญญาของกัมพูชาจะทำให้ประเทศไทยเสียทั้งดินแดน เงิน และทรัพยากร