นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานปล่อยรถมหกรรมคาราวานสินค้าไทยสู่ตลาดจีน โดยระบุว่า กรมส่งเสริมการส่งออกได้จัดทำโครงการมหกรรมคาราวานสินค้าไทยสู่ตลาดจีน ณ เมืองสิบสองปันนา เพื่อบรรทุกสินค้าจากประเทศไทยเดินทางไปเปิดตลาดในประเทศจีน โดยเดินทางสู่ชายแดน จ.เชียงราย เข้าสู่สาธารณรัฐประชาชนลาว และสิบสองปันนา
สำหรับงานมหกรรมคาราวานสินค้าไทยสู่ตลาดจีนจะมีขึ้นในวันที่ 1-5 ตุลาคม 2552 ณ เมืองสิบสองปันนา มณฑลยูนาน ประเทศจีน ซึ่งตรงกับวันฉลองวันชาติจีน ถือเป็นการเปิดเส้นทางการค้าเสรีอย่างเป็นทางการกับเส้นทาง R3A ประตูการค้าชายแดนที่เชื่อมต่อการค้าระดับอาเซียนระหว่างไทย ลาว พม่า จีน โดยที่ผ่านมามูลค่าทางการค้าชายแดนระหว่างไทย-จีน มียอดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 8,200 ล้านบาท และการเปิดเส้นทางการค้าเสรีครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้ตลาดทางการค้าชายแดนเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25
ปัจจุบันประเทศไทยและประเทศจีนถือเป็นคู่ค้าสำคัญในการส่งออกสินค้าประเภทต่างๆ โดยปีที่ผ่านมา มูลค่าทางการค้าระหว่างไทย-จีน สูงถึง 36,347 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวกว่าร้อยละ 19 จากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งปีนี้กรมส่งเสริมการส่งออกวางโครงการเพื่อเร่งการเติบโตของโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศ เพื่อนำเข้าเม็ดเงินจากการส่งออกบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ที่จะเพิ่มยอดมูลค่าทางการค้าการลงทุนในปี 2553 ให้ถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และหนึ่งในโครงการต่างๆ คือ โครงการ Made In Thailand Exhibition 2009 มหกรรมคาราวานสินค้าไทยสู่ตลาดจีน ที่จะเปิดประตูการค้าชายแดนระหว่างไทยและจีนทางตอนใต้ให้มากขึ้น
นางพรทิวา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญด้านการคมนาคมขนส่งทางบกไปจีนตามแนว North-South Economic Corridor หรือ R3A เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญของประเทศ สะดวก ง่าย รวดเร็วต่อการเดินทางขนถ่ายสินค้า โดยจะเดินทางผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าสู่ประตูหน้าด่านทางการค้าสิบสองปันนา (จิงหง) สู่คุนหมิงและเมืองต่างๆ ในประเทศจีน ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการเปิดเส้นทางการค้าเท่านั้น ในอนาคตเส้นทางดังกล่าว ยังจะเป็นประตูในการนำเข้าเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน และยังรวมถึงภาคการศึกษาที่จะง่ายขึ้นในการแลกเปลี่ยนภาษา ความรู้ขนบธรรมเนียบ วัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นจุดหนึ่งที่จะสามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี
สำหรับงานมหกรรมคาราวานสินค้าไทยสู่ตลาดจีนจะมีขึ้นในวันที่ 1-5 ตุลาคม 2552 ณ เมืองสิบสองปันนา มณฑลยูนาน ประเทศจีน ซึ่งตรงกับวันฉลองวันชาติจีน ถือเป็นการเปิดเส้นทางการค้าเสรีอย่างเป็นทางการกับเส้นทาง R3A ประตูการค้าชายแดนที่เชื่อมต่อการค้าระดับอาเซียนระหว่างไทย ลาว พม่า จีน โดยที่ผ่านมามูลค่าทางการค้าชายแดนระหว่างไทย-จีน มียอดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 8,200 ล้านบาท และการเปิดเส้นทางการค้าเสรีครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้ตลาดทางการค้าชายแดนเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25
ปัจจุบันประเทศไทยและประเทศจีนถือเป็นคู่ค้าสำคัญในการส่งออกสินค้าประเภทต่างๆ โดยปีที่ผ่านมา มูลค่าทางการค้าระหว่างไทย-จีน สูงถึง 36,347 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวกว่าร้อยละ 19 จากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งปีนี้กรมส่งเสริมการส่งออกวางโครงการเพื่อเร่งการเติบโตของโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศ เพื่อนำเข้าเม็ดเงินจากการส่งออกบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ที่จะเพิ่มยอดมูลค่าทางการค้าการลงทุนในปี 2553 ให้ถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และหนึ่งในโครงการต่างๆ คือ โครงการ Made In Thailand Exhibition 2009 มหกรรมคาราวานสินค้าไทยสู่ตลาดจีน ที่จะเปิดประตูการค้าชายแดนระหว่างไทยและจีนทางตอนใต้ให้มากขึ้น
นางพรทิวา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญด้านการคมนาคมขนส่งทางบกไปจีนตามแนว North-South Economic Corridor หรือ R3A เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญของประเทศ สะดวก ง่าย รวดเร็วต่อการเดินทางขนถ่ายสินค้า โดยจะเดินทางผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าสู่ประตูหน้าด่านทางการค้าสิบสองปันนา (จิงหง) สู่คุนหมิงและเมืองต่างๆ ในประเทศจีน ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการเปิดเส้นทางการค้าเท่านั้น ในอนาคตเส้นทางดังกล่าว ยังจะเป็นประตูในการนำเข้าเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน และยังรวมถึงภาคการศึกษาที่จะง่ายขึ้นในการแลกเปลี่ยนภาษา ความรู้ขนบธรรมเนียบ วัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นจุดหนึ่งที่จะสามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี