นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร หากรายใดไม่มีเอกสารสิทธิ ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน ทำการรับรองและทำประชาคมให้กับเกษตรกรดังกล่าวที่ต้องการปลูกพืชเกษตรและใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวจริง เพื่อทำสัญญากับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการประกันราคา และมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ประเมินผลผลิตทางการเกษตรจากการประกันราคา เพื่อให้โครงการดังกล่าวมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมอบหมายให้ ธ.ก.ส.ทำหน้าที่จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันสินค้าเกษตรกับราคาอ้างอิงของตลาดที่ประกาศไว้เมื่อราคาอ้างอิงต่ำกว่าราคาที่รัฐบาลประกัน โดยแยกบัญชีการเงินออกจากการดำเนินงานปกติของ ธ.ก.ส.
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรฯ ชดเชยนมดิบ กิโลกรัมละ 1.50 บาท ให้เกษตรกร 20,000 ราย ปริมาณน้ำนมดิบ 2,563 ตันต่อวัน ระยะเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 28 เมษายน 2552 วงเงิน 346 ล้านบาท โดยจะเป็นการชดเชยราคานมดิบให้แก่นิติบุคคลที่เป็นของเอกชน สหกรณ์ ยกเว้นส่วนราชการ เพื่อเป็นการช่วยเหลือในช่วงที่ราคานมตกต่ำในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีเกษตรกรเลี้ยงโคนมขออนุมัติชดเชยน้ำนมดิบ 40 จังหวัด 19,800 ราย โดยองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติเกษตรกรและนิติบุคคลที่ได้รับการชดเชยให้เสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรฯ ชดเชยนมดิบ กิโลกรัมละ 1.50 บาท ให้เกษตรกร 20,000 ราย ปริมาณน้ำนมดิบ 2,563 ตันต่อวัน ระยะเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 28 เมษายน 2552 วงเงิน 346 ล้านบาท โดยจะเป็นการชดเชยราคานมดิบให้แก่นิติบุคคลที่เป็นของเอกชน สหกรณ์ ยกเว้นส่วนราชการ เพื่อเป็นการช่วยเหลือในช่วงที่ราคานมตกต่ำในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีเกษตรกรเลี้ยงโคนมขออนุมัติชดเชยน้ำนมดิบ 40 จังหวัด 19,800 ราย โดยองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติเกษตรกรและนิติบุคคลที่ได้รับการชดเชยให้เสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้