ครม.มีมติยกเลิกโซนนิ่งนมโรงเรียน แบ่ง 550 ล้านบาทจัดซื้อนมกล่องจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย เพื่อให้เด็กได้ดื่มนมมีคุณภาพและช่วยเกษตรกรซื้อน้ำนมดิบ ส่วนเรื่องที่อาจเปิดช่องฮั้วจัดซื้อกับบริษัทรายใหญ่ “จุรินทร์” โบ้ยให้กระทรวงเกษตรฯ ดูเอง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติให้ยกเลิกโซนนิ่งนมโรงเรียน โดยจะเปิดโอกาสให้โรงงานที่ได้มาตรฐานเท่านั้นที่สามารถขายให้หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น จัดซื้อให้โรงเรียนต่อไป โดยรัฐได้เตรียมงบประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งออก 550 ล้านบาทจัดซื้อนมกล่องจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) แจกนักเรียน ทั้งนี้ ครม.ให้เหตุผลว่า ให้เด็กได้ดื่มนมมีคุณภาพ ขณะเดียวกันเกษตรจำหน่ายน้ำนมดิบได้
“การปลดล็อกระบบโซนนิ่งของรัฐมนตรีชุดก่อน ทำให้เกิดการแข่งขันกันเพิ่มขึ้น จากเดิมมีการแข่งขันน้อยราย ส่งผลให้หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องเลือกไม่มีคุณภาพ 1 ไม่มีคุณภาพ 2 อย่างไรก็ตาม การปลดล็อกครั้งนี้ ต่อไปจะซื้อจากที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ ส่วนการจัดซื้อนมกลุ่มราคาแพงกว่ากล่องละ 1 บาท ถ้าหากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต้องการซื้อรัฐยินดีจัดเงินให้หลังทำสัญญา แต่ต้องออกเงินไปก่อน”
นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนจะสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำชับให้โรงเรียนตรวจสอบคุณภาพนม เพราะไม่อยากให้รัฐจัดสรรงบแล้วสูญเปล่า หรือผลประโยชน์ไปตกที่ผู้ค้านมไม่มีคุณภาพ เพราะมีงบประมาณในการจัดซื้อนมตั้งแต่อนุบาลถึง ป.6 มากกว่า 8,000 ล้านบาท
ต่อข้อถามว่าการปลดล็อกโซนนิ่งอาจทำให้การจัดซื้อนมตกอยู่กับบริษัทใหญ่ไม่กี่รายหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัญหานี้ต้องการกระทรวงเกษตรเข้าไปดูเพื่อให้เกษตรกรจำหน่ายน้ำนมได้