ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการกล้ายางพารา 90 ล้านต้น มูลค่า 1,440 ล้านบาท ในเวลา 14.00 น.วันนี้ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีเพียงกลุ่มบุคคลและผู้สนใจเข้ารับฟังคำพิพากษาในคดีเดินทางมาบ้างบางส่วน เช่นเดียวกับสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามคดีในวันนี้ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี โดยเฉพาะจำเลยซึ่งมีถึง 44 คน ยังไม่มีใครเดินทางมาแต่อย่างใด โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองซึ่งเป็นจำเลยที่ 1-5 อาทิ นายเนวิน ชิดชอบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายวราเทพ รัตนากร นายสรอรรถ กลิ่นประทุม และนายอดิศัย โพธารามิก
บรรยากาศโดยรอบศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ล่าสุดเต็มไปด้วยการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลเองซึ่งเตรียมพร้อมจัดพื้นที่ จัดสัดส่วนในการเข้า-ออกศาล โดยแผงเหล็กกั้นอย่างมีระบบ ขณะเดียวกัน เตรียมถ่ายทอดเสียงการอ่านคำพิพากษาผ่านเครื่องขยายเสียงไว้แล้ว นอกจากนี้ ได้มีกำลังพลจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้ามาร่วมดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยด้วย
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่ากองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จัดกำลังตำรวจหน่วยปราบปราม 1 หมวด หรือราว 50 นาย เข้ามาประจำที่ตั้งในศาล พร้อมกันนั้นยังมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่คอยตรวจตราโดยรอบอีก 30 นาย ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนอีก 30 นาย ที่แทรกซึมอยู่ในพื้นที่ เพื่อพิจารณาหาข่าวการเคลื่อนไหวหรือเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากข้อมูลเบื้องต้นที่ฝ่ายตำรวจมีอยู่ คืออาจมีกลุ่มบุคคลเข้ามาสร้างความวุ่นวายหลังศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จในวันนี้
นอกจากนั้น ยังมีส่วนสำคัญที่จะสอดส่องดูแลบุคคลต่างๆ ที่เข้า-ออกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องปราศจากอาวุธ หรือสิ่งแปลกปลอมที่จะนำมาก่อเหตุได้
ทั้งนี้ มีคำยืนยันจากนายเนวิน จำเลยที่ 4 ของคดีนี้ ว่าจะเดินทางเข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษาของคดีกล้ายางอย่างแน่นอน แม้ว่าก่อนหน้านี้นายเนวิน จะเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อส่งบุตรชายเข้าศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษก็ตาม และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีจำเลยบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใด ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาแต่อย่างใด รวมถึงนายอดิศัย จำเลยที่ 5 ของคดี ที่เคยส่งหนังสือขอเลื่อนเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่อ้างถึงการรักษาอาการเจ็บกระดูกสันหลังที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ได้มีการส่งหนังสือเข้ามายังศาลเพิ่มเติม เช่นเดียวกับโจทก์และจำเลยคนอื่นๆ โดยเฉพาะทนายความของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งเชื่อมั่นว่าคดีจะแล้วเสร็จภายในวันนี้
อย่างไรก็ตาม หากมีจำเลยคนอื่นใน 43 คน ที่ไม่ใช่นายอดิศัย ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาของคดี องค์คณะผู้พิพากษาคงต้องร่วมกันพิจารณาขั้นตอนต่างๆ ทั้งการออกหมายจับ ปรับจำเลย และปรับนายประกัน และพิจารณาความเหมาะสมที่จะเลื่อนต่อไปหรือไม่ แต่มีรายงานว่า ผู้พิพากษาส่วนหนึ่งมีความเห็นที่จะอ่านคำพิพากษาในวันนี้ เพราะตามวิธีปฏิบัติตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจขององค์คณะผู้พิพากษา และส่วนใหญ่ก็เห็นควรที่จะให้อ่านทันที เพราะไม่เช่นนั้นจำเลยในคดีที่มากถึง 44 คน อาจใช้วิธีการผลัดกันลา และคงต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นระยะๆ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของศาลต่อการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
บรรยากาศโดยรอบศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ล่าสุดเต็มไปด้วยการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลเองซึ่งเตรียมพร้อมจัดพื้นที่ จัดสัดส่วนในการเข้า-ออกศาล โดยแผงเหล็กกั้นอย่างมีระบบ ขณะเดียวกัน เตรียมถ่ายทอดเสียงการอ่านคำพิพากษาผ่านเครื่องขยายเสียงไว้แล้ว นอกจากนี้ ได้มีกำลังพลจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้ามาร่วมดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยด้วย
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่ากองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จัดกำลังตำรวจหน่วยปราบปราม 1 หมวด หรือราว 50 นาย เข้ามาประจำที่ตั้งในศาล พร้อมกันนั้นยังมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่คอยตรวจตราโดยรอบอีก 30 นาย ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนอีก 30 นาย ที่แทรกซึมอยู่ในพื้นที่ เพื่อพิจารณาหาข่าวการเคลื่อนไหวหรือเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากข้อมูลเบื้องต้นที่ฝ่ายตำรวจมีอยู่ คืออาจมีกลุ่มบุคคลเข้ามาสร้างความวุ่นวายหลังศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จในวันนี้
นอกจากนั้น ยังมีส่วนสำคัญที่จะสอดส่องดูแลบุคคลต่างๆ ที่เข้า-ออกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องปราศจากอาวุธ หรือสิ่งแปลกปลอมที่จะนำมาก่อเหตุได้
ทั้งนี้ มีคำยืนยันจากนายเนวิน จำเลยที่ 4 ของคดีนี้ ว่าจะเดินทางเข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษาของคดีกล้ายางอย่างแน่นอน แม้ว่าก่อนหน้านี้นายเนวิน จะเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อส่งบุตรชายเข้าศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษก็ตาม และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีจำเลยบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใด ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาแต่อย่างใด รวมถึงนายอดิศัย จำเลยที่ 5 ของคดี ที่เคยส่งหนังสือขอเลื่อนเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่อ้างถึงการรักษาอาการเจ็บกระดูกสันหลังที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ได้มีการส่งหนังสือเข้ามายังศาลเพิ่มเติม เช่นเดียวกับโจทก์และจำเลยคนอื่นๆ โดยเฉพาะทนายความของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งเชื่อมั่นว่าคดีจะแล้วเสร็จภายในวันนี้
อย่างไรก็ตาม หากมีจำเลยคนอื่นใน 43 คน ที่ไม่ใช่นายอดิศัย ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาของคดี องค์คณะผู้พิพากษาคงต้องร่วมกันพิจารณาขั้นตอนต่างๆ ทั้งการออกหมายจับ ปรับจำเลย และปรับนายประกัน และพิจารณาความเหมาะสมที่จะเลื่อนต่อไปหรือไม่ แต่มีรายงานว่า ผู้พิพากษาส่วนหนึ่งมีความเห็นที่จะอ่านคำพิพากษาในวันนี้ เพราะตามวิธีปฏิบัติตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจขององค์คณะผู้พิพากษา และส่วนใหญ่ก็เห็นควรที่จะให้อ่านทันที เพราะไม่เช่นนั้นจำเลยในคดีที่มากถึง 44 คน อาจใช้วิธีการผลัดกันลา และคงต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นระยะๆ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของศาลต่อการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
