เงินทุนในตลาดต่างประเทศ ที่เข้ามาตลาดหุ้นไทยจำนวนมากในระยะสั้น ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบปี อยู่ที่ระดับ 33.64 บาท เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือ เปิดเผยว่า เงินบาทแข็งค่า 40-50 สตางค์ใน 1 สัปดาห์ ทำให้ผู้ส่งออกสินค้าหลายรายต้องประสบปัญหาขาดทุน โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ที่ต้นทุนและวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากในประเทศ และไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงที่สินค้าส่วนใหญ่เปิดการเจรจาซื้อขาย เพื่อเตรียมสินค้าไว้สำหรับงานฉลองเทศกาลปลายปี และต้นปีหน้า
นายไพบูลย์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ยังขาดความเชื่อถือจากสถาบันการเงิน ที่จะทำสัญญาซื้อขายเงินตราล่วงหน้าต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยง และหากซื้อขายด้วยเงินสกุลเอเชีย ซึ่งแข็งค่าขึ้นใกล้เคียงกับเงินบาท เช่น เงินเยนญี่ปุ่น จะถูกปฏิเสธจากสถาบันการเงิน ซึ่งต้องการให้ซื้อขายล่วงหน้าด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะว่าจะมีกำไรจากส่วนต่างค่าเงินสกุลนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์จะอยู่ที่ 33.60-33.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีปัจจัยที่ต้องระวังคือ ทิศทางการเงินของสกุลเงิน และตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมถึงการเข้ามาดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย
นายไพบูลย์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ยังขาดความเชื่อถือจากสถาบันการเงิน ที่จะทำสัญญาซื้อขายเงินตราล่วงหน้าต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยง และหากซื้อขายด้วยเงินสกุลเอเชีย ซึ่งแข็งค่าขึ้นใกล้เคียงกับเงินบาท เช่น เงินเยนญี่ปุ่น จะถูกปฏิเสธจากสถาบันการเงิน ซึ่งต้องการให้ซื้อขายล่วงหน้าด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะว่าจะมีกำไรจากส่วนต่างค่าเงินสกุลนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์จะอยู่ที่ 33.60-33.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีปัจจัยที่ต้องระวังคือ ทิศทางการเงินของสกุลเงิน และตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมถึงการเข้ามาดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย