นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมผู้นำเข้าและส่งออกบัตรทอง และสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว ได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับภาพรวมภาวะเศรษฐกิจ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และสภาพคล่อง ที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอีในต่างจังหวัดเข้าถึงสินเชื่อยาก โดยธนาคารแห่งประเทศไทยรับปากที่จะเป็นผู้ประสานกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้มีการผ่อนเกณฑ์หลักประกันในการขอสินเชื่อ เพราะขณะนี้เอสเอ็มอีในต่างจังหวัดมีข้อจำกัดเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกัน และเกณฑ์การขอสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เข้มงวดมาก เพราะธนาคารเกรงว่าจะเกิดปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล จึงต้องการให้มีการผ่อนปรนเพื่อเสริมสภาพคล่องให้เอสเอ็มอีในต่างจังหวัด
นอกจากนี้ภาคเอกชน ขอให้ ธปท.ประสานงานไปยังธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ( ธสน.) เพื่อให้ ธสน. ผ่อนปรณเกณฑ์การค้ำประกันผู้ส่งออกรายย่อยในต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้ประกอบการรวมกลุ่มเป็นคลัสเตอร์ สามารถค้ำประกันระหว่างกันได้
นายสันติ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เอกชนยืนยันท่าทีที่ต้องการให้ ธปท.ดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกินกว่าประเทศคู่แข่ง ซึ่งในช่วง 1-2 เดือน ที่ผ่านมา เงินบาทก็มีเสถียรภาพพอสมควร แต่ก็ยังแข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งประมาณร้อยละ 1 ซึ่ง ธปท. ยังยืนยันว่าจะดูแลให้เหมาะสม แต่ยอมรับว่าการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติที่เข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทย มีผลทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่เคยกดดัน แต่ต้องการให้ดูแลไม่ให้มีความผันผวน โดยแต่ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าค่อนข้างเร็ว แข็งค่าขึ้นประมาณร้อยละ 3 แต่เมื่อเทียบกับต้นปี 2552 แข็งค่าขึ้นร้อยละ 1.8
นอกจากนี้ภาคเอกชน ขอให้ ธปท.ประสานงานไปยังธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ( ธสน.) เพื่อให้ ธสน. ผ่อนปรณเกณฑ์การค้ำประกันผู้ส่งออกรายย่อยในต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้ประกอบการรวมกลุ่มเป็นคลัสเตอร์ สามารถค้ำประกันระหว่างกันได้
นายสันติ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เอกชนยืนยันท่าทีที่ต้องการให้ ธปท.ดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกินกว่าประเทศคู่แข่ง ซึ่งในช่วง 1-2 เดือน ที่ผ่านมา เงินบาทก็มีเสถียรภาพพอสมควร แต่ก็ยังแข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งประมาณร้อยละ 1 ซึ่ง ธปท. ยังยืนยันว่าจะดูแลให้เหมาะสม แต่ยอมรับว่าการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติที่เข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทย มีผลทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่เคยกดดัน แต่ต้องการให้ดูแลไม่ให้มีความผันผวน โดยแต่ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าค่อนข้างเร็ว แข็งค่าขึ้นประมาณร้อยละ 3 แต่เมื่อเทียบกับต้นปี 2552 แข็งค่าขึ้นร้อยละ 1.8
