รัฐบาลศรีลังกาเผยว่า ได้สั่งขับเจ้าหน้าที่องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ออกนอกประเทศเนื่องจากแสดงความเห็นเรื่องสงครามปราบปรามกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมที่เพิ่งสิ้นสุดไป
เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและย้ายถิ่นเผยว่า นายเจมส์ เอลเดอร์ โฆษกยูนิเซฟถูกยกเลิกการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซ่าตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน และถูกสั่งให้ออกนอกประเทศทันที แต่ยูเอ็นได้ขอผ่อนผัน ทางการจึงเลื่อนไปเป็นวันที่ 21 กันยายน รัฐบาลตัดสินใจเรื่องนี้เมื่อหลายเดือนก่อนเนื่องจากนายเอลเดอร์แสดงความเห็นเชิงลบต่อสื่อ ด้านยูนิเซฟเผยว่า กำลังติดต่อขอรายละเอียดในเรื่องนี้
นายเอลเดอร์ ถือหนังสือเดินทางออสเตรเลีย ทำงานให้ยูนิเซฟในศรีลังกาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน ได้รับการตรวจลงตราหนังสือเดินทางให้พำนักอยู่ในศรีลังกาจนถึงปี 2553 เขามักให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ต่างประเทศเกี่ยวกับสงครามปราบกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬและผลกระทบต่อเยาวชน เขากล่าวก่อนที่รัฐบาลจะปราบกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬได้เมื่อเดือนพฤษภาคมว่า เด็กที่ติดอยู่ในสมรภูมิมีชีวิตเลวร้ายราวอยู่ในขุมนรก และขอให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งห้ามกลุ่มบรรเทาทุกข์เข้าไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามหลายแสนคนที่ถูกกักอยู่ในค่ายของรัฐบาล
เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและย้ายถิ่นเผยว่า นายเจมส์ เอลเดอร์ โฆษกยูนิเซฟถูกยกเลิกการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซ่าตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน และถูกสั่งให้ออกนอกประเทศทันที แต่ยูเอ็นได้ขอผ่อนผัน ทางการจึงเลื่อนไปเป็นวันที่ 21 กันยายน รัฐบาลตัดสินใจเรื่องนี้เมื่อหลายเดือนก่อนเนื่องจากนายเอลเดอร์แสดงความเห็นเชิงลบต่อสื่อ ด้านยูนิเซฟเผยว่า กำลังติดต่อขอรายละเอียดในเรื่องนี้
นายเอลเดอร์ ถือหนังสือเดินทางออสเตรเลีย ทำงานให้ยูนิเซฟในศรีลังกาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน ได้รับการตรวจลงตราหนังสือเดินทางให้พำนักอยู่ในศรีลังกาจนถึงปี 2553 เขามักให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ต่างประเทศเกี่ยวกับสงครามปราบกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬและผลกระทบต่อเยาวชน เขากล่าวก่อนที่รัฐบาลจะปราบกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬได้เมื่อเดือนพฤษภาคมว่า เด็กที่ติดอยู่ในสมรภูมิมีชีวิตเลวร้ายราวอยู่ในขุมนรก และขอให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งห้ามกลุ่มบรรเทาทุกข์เข้าไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามหลายแสนคนที่ถูกกักอยู่ในค่ายของรัฐบาล
