นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมสมัชชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา ครั้งที่ 8 ในหัวข้อ สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม หรือ วทน. ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมอย่างมาก เนื่องจากเป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศ ทั้งเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะนำเรื่องดังกล่าวมาปรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อนำมาแก้วิกฤตเศรษฐกิจ การเมือง และปัญหาด้านอื่นๆ ของประเทศต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลมีแนวทางในการแก้วิกฤตเพื่อให้บ้านเมืองอยู่บนพื้นฐานที่แข็งแกร่งด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหา อุปสรรค เรื่องผลงานวิจัยของประเทศมีอยู่กระจัดกระจายและซ้ำซ้อน ทำให้ไม่สามารถนำผลงานมาขยายผลช่วยพัฒนาประเทศได้เท่าที่ควร ซึ่งปัจจัยสำคัญในการช่วยเพิ่มขีดความสามารถวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือการเพิ่มนักวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับประเทศ การมีระบบคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้ควบคู่กับค่าตอบแทนของนักวิจัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลคาดหวังต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้นำผลงานวิจัยมาส่งเสริมภาคการเกษตรให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญด้านอาหารฮาลาลและพลังงานทดแทน ทั้งนี้ หากมีการปฏิวัติเขียวได้ยิ่งเป็นผลดี
ทั้งนี้ รัฐบาลมีแนวทางในการแก้วิกฤตเพื่อให้บ้านเมืองอยู่บนพื้นฐานที่แข็งแกร่งด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหา อุปสรรค เรื่องผลงานวิจัยของประเทศมีอยู่กระจัดกระจายและซ้ำซ้อน ทำให้ไม่สามารถนำผลงานมาขยายผลช่วยพัฒนาประเทศได้เท่าที่ควร ซึ่งปัจจัยสำคัญในการช่วยเพิ่มขีดความสามารถวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือการเพิ่มนักวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับประเทศ การมีระบบคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้ควบคู่กับค่าตอบแทนของนักวิจัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลคาดหวังต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้นำผลงานวิจัยมาส่งเสริมภาคการเกษตรให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญด้านอาหารฮาลาลและพลังงานทดแทน ทั้งนี้ หากมีการปฏิวัติเขียวได้ยิ่งเป็นผลดี