นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาของราชนาวิกสภาประจำปี ในหัวข้อ "วิกฤตเศรษฐกิจ ทางเลือกทางรอดอนาคตประเทศไทย" โดยกล่าวว่า รัฐบาลทราบดีว่าปีนี้จะต้องพบกับปัญหาเศรษฐกิจที่ยากเป็นพิเศษ จึงมีหลักคิดเป็นขั้นตอน โดยมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบแรก ซึ่งการหดตัวของเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 และ 3 จะเริ่มดีขึ้น และในไตรมาสสุดท้าย GDP จะกลับมาอยู่ในแดนบวกได้
ขณะเดียวกัน ตัวเลขที่จะกู้ยืมเพื่อปิดงบประมาณล่าสุดอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท จาก 2 แสนล้านบาทเท่านั้น เพราะการจัดเก็บรายได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ยังกล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ที่ประเมินว่า ต้องการลงทุน 1.43 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 2 และจะเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้หนี้สาธารณะไม่เกินร้อยละ 60 และจะค่อยๆ ลดลงใน 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองว่า เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน โดยรัฐบาลพยายามสร้างเสถียรภาพ ทำให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น แต่จะต้องทำงานให้หนักมากขึ้น ซึ่งมีทั้งปัญหาการทุจริตและการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการเคลื่อนไหวทางการเมืองจะต้องหยุดยั้งให้ได้หากมีการทำผิด
ขณะเดียวกัน ตัวเลขที่จะกู้ยืมเพื่อปิดงบประมาณล่าสุดอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท จาก 2 แสนล้านบาทเท่านั้น เพราะการจัดเก็บรายได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ยังกล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ที่ประเมินว่า ต้องการลงทุน 1.43 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 2 และจะเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้หนี้สาธารณะไม่เกินร้อยละ 60 และจะค่อยๆ ลดลงใน 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองว่า เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน โดยรัฐบาลพยายามสร้างเสถียรภาพ ทำให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น แต่จะต้องทำงานให้หนักมากขึ้น ซึ่งมีทั้งปัญหาการทุจริตและการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการเคลื่อนไหวทางการเมืองจะต้องหยุดยั้งให้ได้หากมีการทำผิด