นายกฯ ปฏิเสธแนวคิด ดึงเงินนอกงบประมาณมาใช้ ยันไม่เคยได้ยินแนวคิดนี้ เพราะอาจทำให้เสียระบบ เตรียมถามรัฐมนตรีคลังอีกครั้ง ในการประชุม ครม.พรุ่งนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธข่าวรัฐบาลเตรียมดึงเงินนอกงบประมาณเข้ามาเสริมสภาพคล่อง หลังการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐต่ำกว่าเป้าหมายมาก โดยระบุหากนำเงินนอกงบประมาณมาใช้จะส่งให้ระบบเกิดปัญหาได้ ซึ่งจะได้สอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง
“ผมยังไม่เคยได้ยินเลยที่จะต้องไปทำอย่างนั้น ต้องสอบถามจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมา การบริหารเงินไม่มีปัญหาอะไร”
โดยเช้าวันนี้ มีกระแสข่าวว่า รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง มีแนวคิดที่จะยืมเงินนอกงบประมาณบางส่วนที่ไม่มีภาระจ่ายทันที ได้แก่ เงินค่าหน่วยกิตลงทะเบียนของนักศึกษาระดับปริญญาโท ค่าธรรมเนียมศาล โดยนำมาปรับใช้จัดสรรในโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลยังขาดแคลนเงินจะจัดสรรให้
เนื่องจากกระทรวงการคลังต้องเร่งหาช่องทางจัดหาแหล่งรายได้เพิ่มเติม เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ต่ำกว่าเป้าถึง 3 แสนล้านบาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาในรายละเอียดของแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 วงเงิน 1.56 ล้านล้านบาท ซึ่งจะใช้ทุนในโครงการต่างๆ ตั้งแต่ปี 2553-2555
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธข่าวรัฐบาลเตรียมดึงเงินนอกงบประมาณเข้ามาเสริมสภาพคล่อง หลังการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐต่ำกว่าเป้าหมายมาก โดยระบุหากนำเงินนอกงบประมาณมาใช้จะส่งให้ระบบเกิดปัญหาได้ ซึ่งจะได้สอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง
“ผมยังไม่เคยได้ยินเลยที่จะต้องไปทำอย่างนั้น ต้องสอบถามจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมา การบริหารเงินไม่มีปัญหาอะไร”
โดยเช้าวันนี้ มีกระแสข่าวว่า รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง มีแนวคิดที่จะยืมเงินนอกงบประมาณบางส่วนที่ไม่มีภาระจ่ายทันที ได้แก่ เงินค่าหน่วยกิตลงทะเบียนของนักศึกษาระดับปริญญาโท ค่าธรรมเนียมศาล โดยนำมาปรับใช้จัดสรรในโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลยังขาดแคลนเงินจะจัดสรรให้
เนื่องจากกระทรวงการคลังต้องเร่งหาช่องทางจัดหาแหล่งรายได้เพิ่มเติม เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ต่ำกว่าเป้าถึง 3 แสนล้านบาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาในรายละเอียดของแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 วงเงิน 1.56 ล้านล้านบาท ซึ่งจะใช้ทุนในโครงการต่างๆ ตั้งแต่ปี 2553-2555
