นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.มอร์รีน เบอร์มิงแฮม ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ถือเป็นครั้งแรกที่มีการรายงานตัวเลขผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นรายสัปดาห์ โดยนายแพทย์ไพจิตร์ ระบุ ตลอดเวลาเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา พบการระบาดในประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมรวม 6,776 ราย หายดีแล้ว 6,697 ราย ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งหมด 35 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยหนักจำนวน 7 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้รวมทั้งสิ้น 44 ราย เพิ่มขึ้นจากการรายงานล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณ 20 ราย ซึ่งแพทย์ประเมินว่า สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ ผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้รับการรักษาช้า รวมถึงพบผู้ป่วยที่ตกอยู่ในภาวะปอดอักเสบสูงขึ้น จึงได้ระดมคณะแพทย์ให้การรักษาอย่างเร่งด่วน และให้ยาโอเซลทามิเวียร์ทันที เพื่อตัดปัญหาในการรับการรักษาที่ช้าเกินไปจนเสียชีวิตอย่างที่ผ่านมา
ทั้งนี้ แพทย์ยืนยันด้วยว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะนี้ยังไม่มีการกลายพันธุ์ แม้จะพบการระบาดในหมูในต่างประเทศแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะศึกษาและติดตามการระบาดของโรคอย่างใกล้ชิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ให้เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการอีก 5 เดือนหลังจากนี้ไป จนถึงสิ้นปี ในการดูแลโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 คือ เน้นป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่คนในครอบครัว และสถานที่ทำงาน ซึ่งจะรองรับมาตรการการหยุดงาน หยุดเรียน จนหายป่วย ให้พักรักษาตัวที่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ โดยให้แยกผู้ป่วย ไม่ปะปนกับคนอื่น หากสามารถสกัดจุดนี้ได้ เชื่อว่าจะสามารถชะลอการแพร่กระจายของเชื้อได้มาก
ทั้งนี้ แพทย์ยืนยันด้วยว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะนี้ยังไม่มีการกลายพันธุ์ แม้จะพบการระบาดในหมูในต่างประเทศแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะศึกษาและติดตามการระบาดของโรคอย่างใกล้ชิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ให้เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการอีก 5 เดือนหลังจากนี้ไป จนถึงสิ้นปี ในการดูแลโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 คือ เน้นป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่คนในครอบครัว และสถานที่ทำงาน ซึ่งจะรองรับมาตรการการหยุดงาน หยุดเรียน จนหายป่วย ให้พักรักษาตัวที่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ โดยให้แยกผู้ป่วย ไม่ปะปนกับคนอื่น หากสามารถสกัดจุดนี้ได้ เชื่อว่าจะสามารถชะลอการแพร่กระจายของเชื้อได้มาก
