นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ใช้โอกาสภายหลังร่วมประชุมประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (นาม) ที่เมืองชาร์ม เอล เชค ประเทศอียิปต์ แวะพักที่กรุงไคโร และเปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยในอียิปต์เข้าพบ เพื่อสอบถามปัญหาและแลกเปลี่ยนความเห็น ซึ่งนักศึกษาส่วนใหญ่มาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายกษิต กล่าวกับนักศึกษาไทยในอียิปต์ว่า รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันจะแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้คลี่คลายภายใน 3 ปี โดยมีการตั้งคณะรัฐมนตรีภาคใต้ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มาดูแลปัญหาภาคใต้เป็นการเฉพาะ และจะมีการปรับปรุงกฎหมายศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้นักการเมืองเข้ามาควบคุมรับผิดชอบแทนการปล่อยให้ข้าราชการประจำรับผิดชอบเหมือนอดีต และยืนยันจะขับเคลื่อนเพื่อคืนกระบวนการยุติธรรมกลับมา รวมถึงคืนความรู้สึกที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ โดยสิ่งที่นายกรัฐมนตรีย้ำคือ ต้องไม่มีพฤติกรรมจับโดยไม่มีเหตุผล ขังลืม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลชุดนี้เป็นอันขาด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาในทุกด้าน รวมถึงการศึกษาของมุสลิม โดยจะกระชับความสัมพันธ์กับมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพื่อร่วมมือด้านการศึกษา โดยเฉพาะกับมาเลเซียนั้น นายกรัฐมนตรีได้นัดหมายกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเจอกันที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อขอคำแนะการผสมผสานระหว่างการเรียนในโรงเรียนปอเนาะ หรือโรงเรียนสอนศาสนา กับด้านวิชาการควบคู่กัน ขณะเดียวกันยังมีโครงการร่วมกับ ศอ.บต. นำผู้นำท้องถิ่นจากภาคใต้ไปดูงานในต่างประเทศ เพื่อได้รับทราบว่าในต่างประเทศซึ่งนับถือศาสนาต่างกัน ทั้งยิว คริสต์ อิสลาม แต่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
นายกษิต กล่าวกับนักศึกษาไทยในอียิปต์ว่า รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันจะแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้คลี่คลายภายใน 3 ปี โดยมีการตั้งคณะรัฐมนตรีภาคใต้ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มาดูแลปัญหาภาคใต้เป็นการเฉพาะ และจะมีการปรับปรุงกฎหมายศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้นักการเมืองเข้ามาควบคุมรับผิดชอบแทนการปล่อยให้ข้าราชการประจำรับผิดชอบเหมือนอดีต และยืนยันจะขับเคลื่อนเพื่อคืนกระบวนการยุติธรรมกลับมา รวมถึงคืนความรู้สึกที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ โดยสิ่งที่นายกรัฐมนตรีย้ำคือ ต้องไม่มีพฤติกรรมจับโดยไม่มีเหตุผล ขังลืม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลชุดนี้เป็นอันขาด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาในทุกด้าน รวมถึงการศึกษาของมุสลิม โดยจะกระชับความสัมพันธ์กับมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพื่อร่วมมือด้านการศึกษา โดยเฉพาะกับมาเลเซียนั้น นายกรัฐมนตรีได้นัดหมายกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเจอกันที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อขอคำแนะการผสมผสานระหว่างการเรียนในโรงเรียนปอเนาะ หรือโรงเรียนสอนศาสนา กับด้านวิชาการควบคู่กัน ขณะเดียวกันยังมีโครงการร่วมกับ ศอ.บต. นำผู้นำท้องถิ่นจากภาคใต้ไปดูงานในต่างประเทศ เพื่อได้รับทราบว่าในต่างประเทศซึ่งนับถือศาสนาต่างกัน ทั้งยิว คริสต์ อิสลาม แต่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข