นายกฯ อภิสิทธิ์ รับจดหมายเปิดผนึกจากเครือข่ายนักศึกษามุสลิม เสนอมาตรการแก้ปัญหาไฟใต้ระยะสั้น จี้ ตั้งกรรมการสอบเหตุคนร้ายยิงมัสยิดไอปาแย แกนนำนักศึกษาเผยนายกฯ ปฏิเสธตั้งคณะกรรมการ เพราะเชื่อไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่ เสนอแผนระยะยาวใช้การเมืองนำทหาร พัฒนานำความมั่นคง
วันนี้ (17 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.30 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับมอบจดหมายเปิดผนึกและแถลงการณ์จากตัวแทนนักศึกษา 5 คน จากจำนวนทั้งหมดประมาณ 300 คน ที่ร่วมกันชุมนุมด้านหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล (ถนนพิษณุโลก) จากหลายองค์กร อาทิ สมาพันธ์นักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย สมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน และอีก 2 องค์กรในระดับภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ฯลฯ ต่อกรณีที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงเข้าไปในมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ขณะที่ชาวมุสลิมกำลังทำพิธีละหมาดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกลุ่มนักศึกษามีการเสนอมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว
โดยระยะสั้นขอให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมแห่งนิติรัฐอย่างจริงจัง ตรงไปตรงมา เพื่อพิสูจน์ความจริงใจของภาครัฐในทุกเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเคลือบแคลงใจ ว่า อาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้อง โดยการตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบความจริงที่มาจากบุคคลที่เป็นที่ยอมรับถึงบทบาทด้านความยุติธรรมของสังคมโดยรวม ส่วนในระยะยาวมีการเสนอให้ใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร การพัฒนานำความมั่นคงอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การเกิดความเป็นธรรมในระดับโครงสร้างของสังคม
นายตูแวดานียา ตูแวแมแง ประธานเครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน กล่าวภายหลังยื่นหนังสือกับนายกฯ ว่า มีการเสนอกับนายกให้ตั้งคณะกรรมการ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้สูญเสีย แต่นายกฯปฏิเสธที่จะตั้งคณะกรรมการดังกล่าว และได้ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ และคดีก็กำลังดำเนินการตามกฎหมาย โดยขณะนี้มีการออกหมายจับแล้ว 1 คน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นคนที่ก่อเหตุจริงหรือไม่
นายตูแวดานียา กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องให้ระวังในเรื่องของการสัมภาษณ์ที่มักมีการใช้ความรู้สึกเป็นส่วนใหญ่ อย่างกรณีที่มัสยิดโฆษกกองทัพภาค 4 ให้สัมภาษณ์สรุปในระยะเวลาอันสั้นว่าไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอนทั้งที่ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ และตนยืนยันได้ว่าที่ผ่านมามีการซ้อมและการทรมานเกิดขึ้นจริง ซึ่งเพื่อนของตนก็โดนเจ้าหน้าที่ซ้อม รวมถึงอีกหลายกรณีด้วย ทั้งนี้ มาตรการระยะยาวนั้นขอให้รัฐบาลที่ส่วนใหญ่เป็นคนภาคใต้ที่เข้าใจกันมานานช่วยใช้การเมืองนำการทหาร การพัฒนานำความมั่นคง ให้เกิดขึ้นเสียทีอย่างเป็นรูปธรรม
