น.พ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนบางส่วนยังมีความวิตกกังวลว่าจะเสี่ยงได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จากการไปร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว ขอยืนยันว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และแพร่กระจายได้ทางการไอ จาม จึงไม่สามารถแพร่ทางศพได้ เพราะไม่มีการไอ จามแล้ว จึงขอให้ประชาชนสบายใจและไปร่วมงานศพได้ตามปกติ
น.พ.สุพรรณ กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 รวมทั้งโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่น ๆ สามารถแพร่เชื้อได้ทางการไอ จาม และการสัมผัสเชื้อที่ปนเปื้อนตามสิ่งของเครื่องใช้ หรือพื้นที่สาธารณะ เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได ราวรถโดยสารสาธารณะ ลูกบิดประตู ที่กดชักโครก โทรศัพท์สาธารณะ เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น ซึ่งการใช้หน้ากากอนามัยขณะมีอาการป่วยจะสามารถกรองฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายที่มีเชื้อปะปนอยู่ได้มากกว่าร้อยละ 80 โดยการใช้หน้ากากอนามัยที่มีขายทั่วไป ทั้งชนิดที่ทำจากกระดาษใช้ครั้งเดียวทิ้ง และชนิดผ้าก็มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะลดการแพร่กระจายเชื้อได้แล้ว ขณะเดียวกันผู้ที่ไม่ป่วย หากต้องอยู่ในที่ชุมชนหรือมีความแออัดก็สามารถใส่เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ในการใช้หน้ากากทั้ง 2 ชนิด ต้องใช้ให้ถูกต้อง โดยล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนใส่หน้ากากอนามัย คาดหน้ากากให้คลุมทั้งจมูกและปาก แนบสนิทกับใบหน้า โดยคาดให้แถบที่มีลวดอยู่ด้านบนสันจมูกและขอบจีบพับคว่ำลง เวลาพูดไม่ต้องถอดหน้ากากอนามัย แต่เวลาดื่มน้ำให้เลื่อนลงไว้ใต้คางได้ และควรเปลี่ยนใหม่ทุกวันหรือเปลี่ยนเมื่อเปียกชื้น เนื่องจากประสิทธิภาพการกรองจะลดลง และทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด ส่วนหน้ากากที่ทำจากผ้าต้องเปลี่ยนเมื่อเปื้อนหรือเปลี่ยนทุกวัน แต่สามารถซักด้วยน้ำผสมผงซักฟอก ตากแดดให้แห้งและนำกลับมาใช้ใหม่ได้จนกว่าจะชำรุด
น.พ.สุพรรณ กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 รวมทั้งโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่น ๆ สามารถแพร่เชื้อได้ทางการไอ จาม และการสัมผัสเชื้อที่ปนเปื้อนตามสิ่งของเครื่องใช้ หรือพื้นที่สาธารณะ เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได ราวรถโดยสารสาธารณะ ลูกบิดประตู ที่กดชักโครก โทรศัพท์สาธารณะ เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น ซึ่งการใช้หน้ากากอนามัยขณะมีอาการป่วยจะสามารถกรองฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายที่มีเชื้อปะปนอยู่ได้มากกว่าร้อยละ 80 โดยการใช้หน้ากากอนามัยที่มีขายทั่วไป ทั้งชนิดที่ทำจากกระดาษใช้ครั้งเดียวทิ้ง และชนิดผ้าก็มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะลดการแพร่กระจายเชื้อได้แล้ว ขณะเดียวกันผู้ที่ไม่ป่วย หากต้องอยู่ในที่ชุมชนหรือมีความแออัดก็สามารถใส่เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ในการใช้หน้ากากทั้ง 2 ชนิด ต้องใช้ให้ถูกต้อง โดยล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนใส่หน้ากากอนามัย คาดหน้ากากให้คลุมทั้งจมูกและปาก แนบสนิทกับใบหน้า โดยคาดให้แถบที่มีลวดอยู่ด้านบนสันจมูกและขอบจีบพับคว่ำลง เวลาพูดไม่ต้องถอดหน้ากากอนามัย แต่เวลาดื่มน้ำให้เลื่อนลงไว้ใต้คางได้ และควรเปลี่ยนใหม่ทุกวันหรือเปลี่ยนเมื่อเปียกชื้น เนื่องจากประสิทธิภาพการกรองจะลดลง และทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด ส่วนหน้ากากที่ทำจากผ้าต้องเปลี่ยนเมื่อเปื้อนหรือเปลี่ยนทุกวัน แต่สามารถซักด้วยน้ำผสมผงซักฟอก ตากแดดให้แห้งและนำกลับมาใช้ใหม่ได้จนกว่าจะชำรุด
