xs
xsm
sm
md
lg

เปิดยอดผู้ป่วยหวัด 09 วันสุดท้ายเพิ่ม 412 ราย ป่วยสะสมเฉียด 5 พัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สธ.แจ้งยอดผู้ป่วยหวัดใหญ่ 2009 ครั้งสุดท้าย ก่อนเข้าระบบแจ้งตัวเลขสัปดาห์ละครั้ง ป่วยเพิ่ม 412 ราย ยอดรวม 4,469 ราย ชี้ทุกคนควรมีหน้ากากอนามัยผ้าคนละ 2 ชิ้นใช้สับเปลี่ยนกัน ราคาไม่เกิน 7 บาทต่อชิ้น ประสานสสจ.ให้ความรู้ผลิตใช้ในชุมชน ยืนยันประสิทธิภาพป้องกันโรคได้แน่นอน

วันที่ 15 กรกฎาคม นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สธ.ได้รับรายงานผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่ม 412 ราย รวมยอดสะสม 4,469 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกว่า 10 ราย ผู้เสียชีวิตยืนยันไข้หวัดใหญ่ 2009 เท่าเดิม คือ 24 ราย สำหรับเด็กชายอายุ 7 เดือน จ.เชียงใหม่ ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2552 ยังไม่ได้รับรายงานยืนยันเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่อย่างใด ซึ่งการให้ตัวเลขครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่สธ.จะแจ้งข้อมูลผู้ป่วย โดยในสัปดาห์หน้าจะเริ่มให้ข้อมูลในวันพุธ เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และขอยืนยันว่าสธ.ไม่มีการปิดบังข้อมูล เพราะไม่สามารถปิดได้อยู่แล้ว

“ขณะนี้ข้อมูลที่รับทราบกันอยู่แล้วว่า ตัวเลขผู้ป่วยที่แท้จริง และผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนยืนยันของสธ.ต่างกัน เนื่องจากยังมีตัวเลขผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์เชื้อไวรัสอยู่ที่มหาวิทยาลัยแพทย์และยอดผู้ป่วยจากโรงพยาบาลต่างๆ ก็แจ้งเข้ามาทุกวัน สำหรับการตรวจพิสูจน์เชื้อยังมีความจำเป็นเพื่อดูการแพร่กระจายของโรคในชุมชน และการนำเชื้อมาตรวจการดื้อยา การเปลี่ยนแปลงของเชื้อไวรัส”นายมานิตกล่าว

นายมานิต กล่าวต่อว่า ส่วนหน้ากากอนามัยขณะนี้ได้ประสานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในแต่ละจังหวัด ในการสนับสนุนให้ชุมชนแต่ละแห่งจัดทำหน้ากากอนามัยใช้เอง ซึ่งหน้ากากอนามัยที่ทำขึ้นเองจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ โดยเป็นการตัดเย็บในรูปแบบเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดคนไข้เมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว ทั้งนี้หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งที่มีจำเป็นต้องใช้ในการป้องกันโรค เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะยังคงอยู่ไปอีกนาน และต้องรอจนกว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่จะมาถึงประเทศไทย ในเดือนต.ค.นี้

“ทุกคนควรจะมีหน้ากากาอนามัยคนละ 2 ชิ้น เมื่อใส่แล้วสามารถนำไปซัก สลับเปลี่ยนกัน ใช้ได้ตลอด ขณะที่หน้ากากอนามัยที่เป็นกระดาษหากชุ่มแล้วก็ต้องทิ้ง ดังนั้นวันหนึ่งอาจต้องใช้ 1-2 ชิ้น ซึ่งการใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าจะช่วยให้ประหยัดมากกว่า ซึ่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 4 ได้ดำเนินการให้กลุ่มแม่บ้านที่ผลิตสินค้าโอท็อปมาใช้ในชุมชนราคาต้นทุน 5 บาท และจำหน่ายในราคา 7 บาท ดังนั้น ผู้ที่ผลิตหน้ากากอนามัยที่เป็นแบบผ้าควรมีราคาไม่เกิน 7 บาท และเป็นการผลิตใช้ในชุมชน”นายมานิตกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น