นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกรณีกรมอนามัย ระบุผลตรวจสุขภาพ ส.ส.-ส.ว. พบว่ามีภาวะอ้วนลงพุงเกินค่ามาตรฐาน อันมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคความดัน เบาหวาน ไขมันในเลือด สูงกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า รวมถึงความเสี่ยงต่อโรคไข้หวัด ว่า รัฐสภาควรมีศูนย์เสริมสร้างสุขภาพเพื่อให้คำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพกับ ส.ส.-ส.ว.โดยตรง นอกจากนี้ ควรกระตุ้น ส.ส.และ ส.ว.ให้หันมาออกกำลังกายให้มาก
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารและอาหารว่างช่วงระหว่างการประชุมสภาฯ โดยลดอาหารประเภทไขมันและของหวานก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการดูแลปัญหาสุขภาพของนักการเมือง แต่อาจเป็นเรื่องยากในการปฏิบัติ เนื่องจาก ส.ส.100 คนก็มีความต้องการ 100 แบบ แต่หากพยายามกระตุ้นให้ตระหนักและรู้ถึงอันตรายและโทษของการไม่ออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกลักษณะ ก็จะทำให้หลายคนหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น
ขณะที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส.ส.เป็นอาชีพที่ต้องนั่งประชุมเป็นเวลานาน ทำให้ไม่ค่อยได้มีเวลาที่จะดูแลตัวเองเท่าที่ควร อีกทั้งเมื่อลงพื้นที่ ยิ่งทำให้รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา ระบบการย่อย การเผาผลาญจึงไม่ดี จึงมีภาวะเสียงสูงที่จะเป็นโรคหัวใจสูงมาก ดังนั้น หากจะตั้งศูนย์สร้างเสริมสร้างสุขภาพเพื่อให้ ส.ส.ทุกคนได้รับคำแนะนำในเรื่องการดูสุขภาพและออกกำลังกาย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและน่าสนับสนุนอย่างมาก และเห็นด้วยหากจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนอาหารของ ส.ส.โดยเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะจะทำให้ ส.ส.ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงและลดภาวะโรคเสี่ยง
ทางด้านนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การตั้งศูนย์สุขภาพฯ ควรคำนึงถึงความสะดวกสบายของ ส.ส. ส.ว. ข้าราชการ และสื่อมวลชน ว่ามีเวลามากพอที่จะแบ่งมาออกกำลังกายหรือไม่ เนื่องจากงานมากอาจไม่มีเวลาออกกำลัง แต่หากทำได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเหตุผลส่วนใหญ่ที่ไม่อยากออกกำลังกายมักอ้างว่าไม่มีเวลา ดังนั้นจะทำอย่างไรจึงจะสามารถจัดเวลาให้เหมาะสมและลงตัว
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารและอาหารว่างช่วงระหว่างการประชุมสภาฯ โดยลดอาหารประเภทไขมันและของหวานก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการดูแลปัญหาสุขภาพของนักการเมือง แต่อาจเป็นเรื่องยากในการปฏิบัติ เนื่องจาก ส.ส.100 คนก็มีความต้องการ 100 แบบ แต่หากพยายามกระตุ้นให้ตระหนักและรู้ถึงอันตรายและโทษของการไม่ออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกลักษณะ ก็จะทำให้หลายคนหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น
ขณะที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส.ส.เป็นอาชีพที่ต้องนั่งประชุมเป็นเวลานาน ทำให้ไม่ค่อยได้มีเวลาที่จะดูแลตัวเองเท่าที่ควร อีกทั้งเมื่อลงพื้นที่ ยิ่งทำให้รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา ระบบการย่อย การเผาผลาญจึงไม่ดี จึงมีภาวะเสียงสูงที่จะเป็นโรคหัวใจสูงมาก ดังนั้น หากจะตั้งศูนย์สร้างเสริมสร้างสุขภาพเพื่อให้ ส.ส.ทุกคนได้รับคำแนะนำในเรื่องการดูสุขภาพและออกกำลังกาย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและน่าสนับสนุนอย่างมาก และเห็นด้วยหากจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนอาหารของ ส.ส.โดยเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะจะทำให้ ส.ส.ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงและลดภาวะโรคเสี่ยง
ทางด้านนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การตั้งศูนย์สุขภาพฯ ควรคำนึงถึงความสะดวกสบายของ ส.ส. ส.ว. ข้าราชการ และสื่อมวลชน ว่ามีเวลามากพอที่จะแบ่งมาออกกำลังกายหรือไม่ เนื่องจากงานมากอาจไม่มีเวลาออกกำลัง แต่หากทำได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเหตุผลส่วนใหญ่ที่ไม่อยากออกกำลังกายมักอ้างว่าไม่มีเวลา ดังนั้นจะทำอย่างไรจึงจะสามารถจัดเวลาให้เหมาะสมและลงตัว
