คอลัมน์กาแฟดำในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ซึ่งเป็นนามปากกาของ นายสุทธิชัย หยุ่น ได้เขียนบทความชื่อ "เมื่อผู้ก่อการดีต้องแยกแยะบทบาทเพื่อสู้ข้อกล่าวหาก่อการร้าย" ว่า ข้อกล่าวหาก่อการร้ายของตำรวจเป็นข้อหาที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เมื่อเปรียบเทียบกับความรุนแรงทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.จากเหตุการณ์สงกรานต์เลือด และยังมีการเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม กาแฟดำเห็นว่านายกษิต ควรถือโอกาสนี้แสดงความสง่างามทางการเมืองด้วยการเปิดทางให้เกิดการสอบสวนตามขั้นตอนยุติธรรมอย่างไม่หวงตำแหน่ง และเห็นว่าการลาออกไม่ได้เป็นการยอมรับว่าตนเองมีความผิด แต่จะทำให้ นายกษิต มีความคล่องตัว ไม่เป็นภาระต่อนายกรัฐมนตรีในการบริหารชาติบ้านเมืองต่อไป
ขณะที่บทนำของหนังสือพิมพ์มติชน ในเรื่องมาตรฐานการเมือง ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ต้องร่วมกันตัดสินใจทางการเมือง ซึ่งจะเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานทางการเมืองของนักการเมืองไทยที่ก่อนหน้านี้มีนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองมาก่อนแล้ว เช่น กรณีปลากระป๋องเน่า การจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม กาแฟดำเห็นว่านายกษิต ควรถือโอกาสนี้แสดงความสง่างามทางการเมืองด้วยการเปิดทางให้เกิดการสอบสวนตามขั้นตอนยุติธรรมอย่างไม่หวงตำแหน่ง และเห็นว่าการลาออกไม่ได้เป็นการยอมรับว่าตนเองมีความผิด แต่จะทำให้ นายกษิต มีความคล่องตัว ไม่เป็นภาระต่อนายกรัฐมนตรีในการบริหารชาติบ้านเมืองต่อไป
ขณะที่บทนำของหนังสือพิมพ์มติชน ในเรื่องมาตรฐานการเมือง ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ต้องร่วมกันตัดสินใจทางการเมือง ซึ่งจะเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานทางการเมืองของนักการเมืองไทยที่ก่อนหน้านี้มีนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองมาก่อนแล้ว เช่น กรณีปลากระป๋องเน่า การจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร
