นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะออกโฉนดชุมชน เพื่อให้ชุมชนเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินแทนเกษตรกร ในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากพบว่า ที่ผ่านมาแม้รัฐบาลจะมอบเอกสารสิทธิ์ให้กับเกษตรกร แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องเปลี่ยนผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ ทำให้เกษตรกรไม่มีที่ดินทำกินอย่างถาวร
เกษตรกรบางส่วนใน จ.ขอนแก่น เห็นว่า แนวทางนี้จะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยให้สามารถมีที่ดินทำกินเป็นของตัวเองได้ แต่ควรมีรูปแบบที่ชัดเจน และกระบวนการตรวจสอบ เพื่อป้องกันนายทุนเข้ามาแทรกแซง
ส่วนอีกแนวทางหนึ่งเพื่อการกระจายที่ดินของรัฐบาล คือ การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ที่เครือข่ายคนไร้แผ่นดิน เห็นว่า รัฐบาลควรเก็บภาษีแบบอัตราก้าวหน้า ด้วยการประเมินตามลักษณะการใช้ประโยชน์ และจำนวนการถือครอง รวมทั้งจัดทำกองทุนที่ดิน เพื่อให้เป็นเครื่องมือการตรวจสอบการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สำหรับร่าง พ.ร.บ.จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งก่อสร้าง แบ่งการจัดเก็บภาษีเป็น 3 อัตรา เทียบกับราคาประเมินที่ดิน ได้แก่ ภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วไป ไม่เกินร้อยละ 0.5 ที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้ประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ ไม่เกินร้อยละ 0.1 และที่ประกอบเกษตรกรรม ไม่เกินร้อยละ 0.05 ส่วนกรณีเป็นที่ดินทิ้งว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ เสียภาษีไม่เกินร้อยละ 0.05 โดยในช่วงปีแรกที่กฎหมายมีผลบังคับใช้จะยังไม่เก็บภาษีแต่อย่างใด เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 เก็บร้อยละ 50 ของอัตราภาษีที่กำหนด ปีที่ 4 เก็บร้อยละ 75 และปีที่ 5 เก็บเต็มจำนวน โดยจะพิจารณากำหนดอัตราภาษีในทุกรอบ เวลา 4 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา คาดว่าสามารถประกาศใช้ได้ภายในปีนี้
เกษตรกรบางส่วนใน จ.ขอนแก่น เห็นว่า แนวทางนี้จะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยให้สามารถมีที่ดินทำกินเป็นของตัวเองได้ แต่ควรมีรูปแบบที่ชัดเจน และกระบวนการตรวจสอบ เพื่อป้องกันนายทุนเข้ามาแทรกแซง
ส่วนอีกแนวทางหนึ่งเพื่อการกระจายที่ดินของรัฐบาล คือ การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ที่เครือข่ายคนไร้แผ่นดิน เห็นว่า รัฐบาลควรเก็บภาษีแบบอัตราก้าวหน้า ด้วยการประเมินตามลักษณะการใช้ประโยชน์ และจำนวนการถือครอง รวมทั้งจัดทำกองทุนที่ดิน เพื่อให้เป็นเครื่องมือการตรวจสอบการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สำหรับร่าง พ.ร.บ.จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งก่อสร้าง แบ่งการจัดเก็บภาษีเป็น 3 อัตรา เทียบกับราคาประเมินที่ดิน ได้แก่ ภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วไป ไม่เกินร้อยละ 0.5 ที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้ประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ ไม่เกินร้อยละ 0.1 และที่ประกอบเกษตรกรรม ไม่เกินร้อยละ 0.05 ส่วนกรณีเป็นที่ดินทิ้งว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ เสียภาษีไม่เกินร้อยละ 0.05 โดยในช่วงปีแรกที่กฎหมายมีผลบังคับใช้จะยังไม่เก็บภาษีแต่อย่างใด เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 เก็บร้อยละ 50 ของอัตราภาษีที่กำหนด ปีที่ 4 เก็บร้อยละ 75 และปีที่ 5 เก็บเต็มจำนวน โดยจะพิจารณากำหนดอัตราภาษีในทุกรอบ เวลา 4 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา คาดว่าสามารถประกาศใช้ได้ภายในปีนี้
