เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) นำเสนอผลการศึกษามาตรการทางภาษี และธนาคารที่ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินของสังคมไทย จากการสำรวจการกระจายของการถือครองที่ดินภาคการเกษตรแห่งประเทศไทยพบว่า ร้อยละ 18.42 ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง ร้อยละ 24.91 มีที่ดินระหว่าง 10-19 ไร่ ขณะที่คนจำนวนน้อยร้อยละ 9.88 มีที่ดินมากกว่า 40 ไร่ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยยังมีการกระจุกตัวในการถือครองที่ดิน
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย จึงเสนอรัฐบาลผลักดันให้มีการจัดเก็บภาษีที่ดินจากเจ้าของที่ดิน ที่ปล่อยทิ้งรกร้าง ในอัตราภาษีที่สูงกว่าอัตราภาษีที่ดินที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งมีการเสนอให้ยกเว้นภาษีให้ผู้ถือครองที่ดินจำนวนน้อย เพื่อลดภาระให้แก่เกษตรกรที่ต้องอาศัยที่ดิน เป็นปัจจัยการผลิตเพื่อดำรงชีพ โดยกำหนดอัตราภาษีแบบก้าวหน้าอย่างเหมาะสม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม พร้อมกันนี้ทางเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ยังเสนอให้จัดตั้งธนาคารที่ดินใน 5 รูปแบบ เช่น จัดตั้งในรูปแบบรัฐวิสาหกิจ และจัดตั้งโดยธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น โดยกองทุนธนาคารที่ดินจะมีรายได้ จากการจัดเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างร้อยละ 2 เพื่อนำเงินจำนวนนี้ มาบริหารจัดการภายในธนาคารที่ดิน เพราะที่ผ่านมา แม้จะมีกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขาดการประสานงานอย่างจริงจัง ไม่มีการติดตามประเมินผลอย่างเป็นระบบ ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ที่จะเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการอำนวยการ เพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยในช่วงเย็นวันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย จึงเสนอรัฐบาลผลักดันให้มีการจัดเก็บภาษีที่ดินจากเจ้าของที่ดิน ที่ปล่อยทิ้งรกร้าง ในอัตราภาษีที่สูงกว่าอัตราภาษีที่ดินที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งมีการเสนอให้ยกเว้นภาษีให้ผู้ถือครองที่ดินจำนวนน้อย เพื่อลดภาระให้แก่เกษตรกรที่ต้องอาศัยที่ดิน เป็นปัจจัยการผลิตเพื่อดำรงชีพ โดยกำหนดอัตราภาษีแบบก้าวหน้าอย่างเหมาะสม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม พร้อมกันนี้ทางเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ยังเสนอให้จัดตั้งธนาคารที่ดินใน 5 รูปแบบ เช่น จัดตั้งในรูปแบบรัฐวิสาหกิจ และจัดตั้งโดยธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น โดยกองทุนธนาคารที่ดินจะมีรายได้ จากการจัดเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างร้อยละ 2 เพื่อนำเงินจำนวนนี้ มาบริหารจัดการภายในธนาคารที่ดิน เพราะที่ผ่านมา แม้จะมีกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขาดการประสานงานอย่างจริงจัง ไม่มีการติดตามประเมินผลอย่างเป็นระบบ ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ที่จะเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการอำนวยการ เพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยในช่วงเย็นวันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล