xs
xsm
sm
md
lg

“สาทิตย์”ลงพื้นที่รับฟังปัญหาป่าชุมชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่มายังศูนย์ประสานงานองค์กรชุมชน บ้านทับเขือ – ปลักหมูเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย

วันนี้ (9 พ.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการแนวทางการปฏิบัติ ตามนโยบายการกระจายถือครองที่ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่มายังศูนย์ประสานงานองค์กรชุมชน บ้านทับเขือ – ปลักหมู เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง

ทั้งนี้ มีสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย จากจังหวัดตรัง และจังหวัดใกล้เคียง เช่น พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี รวมจำนวนกว่า 200 คน ร่วมเดินทางมารับฟังแนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลพร้อมกัน หลังจากองค์กรชุมชนบ้านทับเขือ – ปลักหมู ได้รับการคัดเลือกเป็นพื้นที่นำร่อง ในการออกโฉนดชุมชน ซึ่งถือเป็น 1 ในแนวทางการแก้ไขปัญหา ของคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางการปฏิบัติ ตามนโยบายการกระจายถือครองที่ดิน

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย รัฐบาลได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ อำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายฯขึ้นมา โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อแก้ปัญหาข้อโต้แย้งในสิทธิ์ที่ทำกินทั่วประเทศ และมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแล ด้านต่างๆให้ครอบคลุม รวมทั้งหมด 6 ด้าน โดยมีแนวทางแก้ไขดูแลปัญหา ทั้งหมด 3 แนวทาง คือ การศึกษาเรื่องกฎหมายกระจายการถือครองที่ดิน การจัดตั้งธนาคารที่ดิน และการออกโฉนดชุมชน จากนั้น ได้เลือกที่ดำเนินการออกโฉนดชุมชน ก่อนคัดเลือกให้องค์กรชุมชนบ้านทับเขือ – ปลักหมู เป็นพื้นที่นำร่อง จึงได้เดินทางมาดูสภาพพื้นที่จริงเพื่อรับฟังปัญหา ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะอนุกรรมการ เพื่อหามาตรการต่อแนวทางการปฏิบัติต่อไป

นอกจากนั้น เมื่อ นายสาทิตย์ ได้รับฟังปัญหาจากชาวบ้านแล้ว ก็ได้สรุปแนวทางตามที่ชาวบ้านเสนอขึ้นมา 2 แนวทาง คือ 1. จะต้องทำการรังวัดที่ดินที่ของชาวบ้านที่มีการถือครองร่วมกัน โดยจัดให้มีตัวแทนขององค์กรชุมชน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติในพื้นที่ ตัวแทนจากทางจังหวัด และตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อนำข้อมูลการถือครองที่ดิน ทั้งของชาวบ้านและอุทยานมาศึกษาร่วมกัน เนื่องจากที่ดินที่ทางอุทยาน ได้ถือครองอยู่ในพื้นที่นั้นมีทั้งหมด 1,376 ไร่ 207 แปลง รวมจำนวน 174 ราย ซึ่งหากของรายใดมีเอกสารตรงกับทางอุทยาน ก็จะเข้าสู่กระบวนการออกโฉนดชุมชนให้แก่ชาวบ้านต่อไป ส่วนที่มีปัญหาจะต้องมีการตกลงกันใหม่ โดยชุดคณะกรรมการดังกล่าว

2. องค์กรชุมชนจะต้องรับผิดชอบ และระมัดระวังไม่ให้บุคคลภายนอก เข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม หากพบบุคคลภายนอกเข้ามาบุกรุกพื้นที่ เจ้าหน้าอุทยานฯมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย และองค์กรชุมชนจะต้องมีการดูแล และบริหารจัดการพื้นที่ป่ากันเอง โดยยึดความสมบูรณ์และความยั่งยืนของผืนป่า พร้อมต้องรับปากว่า หากมีการออกโฉนดชุมชนแล้วนั้น จะต้องดูแลไม่ให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้ามาดำเนินการใดๆ ต่อไปด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น