นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังนำคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ประชุมร่วมกับหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ซึ่งมีนายนันดอร์ วอน เดอ ลู ประธานหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย นำตัวแทนนักธุรกิจต่างชาติเข้ามาร่วมหารือ ว่า ในการประชุมร่วมกันได้ชี้แจงนโยบายด้านการลงทุนและมาตรการสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาลและนักลงทุนได้หยิบยกประเด็นปัญหาด้านการลงทุนขึ้นมาหารือ ซึ่งการประชุมลักษณะดังกล่าวนี้บีโอไอจัดให้มีขึ้นทุก 3 เดือน
ทั้งนี้ นักลงทุนให้ความสนใจการจัดตั้ง "วันสตาร์ทวันสต็อปเซอร์วิสเซ็นเตอร์" หรือ OSOS ซึ่งตนในฐานะรองประธาน OSOS จะนำประเด็นปัญหาที่นักลงทุนซักถามไปหารือและแก้ไขในต่อไป เช่น กรณีที่หอการค้าต่างประเทศฯ ยกประเด็นปัญหา พ.ร.บ.การประกอบอาชีพของคนต่างด้าว ที่บัญชีแนบท้ายสงวนอาชีพไว้ และการที่ไทยยังไม่เปิดเสรีธุรกิจบริการนั้น หากพิจารณาแล้วว่าการลงทุนของต่างชาติที่จะเกิดขึ้นเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายก็จะนำไปหารือกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป
สำหรับศูนย์ OSOS คาดว่าจะตั้งสำนักงานที่จามจุรีสแควร์ โดยจะเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนี้ และจะเปิดบริการในช่วงต่อไปให้เร็วที่สุดโดยจะไม่รอการตกแต่งสถานที่ และการทำงานพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุน หากไม่เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ก็จะสามารถพิจารณาคำขอแล้วเสร็จภายใน 60 วัน
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า หอการค้าต่างประเทศฯ ได้สอบถามถึงการให้สิทธิประโยชน์กิจการลอจิสติกส์ โดยต้องการขอให้ได้รับสิทธิไม่เฉพาะในนิคมลอจิสติกส์เท่านั้น นอกนิคมควรได้รับสิทธิด้วย ซึ่งบีโอไอจะรับไปพิจารณาก่อน นอกจากนี้ ยังสนใจสอบถามการลงทุนด้านไอซีที การแก้ไข พ.ร.บ.ธุรกิจต่างด้าว ปัญหาการอนุมัติโครงการลงทุนที่ต้องเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน
ขณะเดียวกันก็สอบถามถึงแนวทางที่จะให้ต่างชาติสามารถถือหุ้นในธุรกิจบริการได้มากขึ้น ซึ่งได้รับไปหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไป ส่วนปัญหาอุตสาหกรรมต่อเรือที่ประสบปัญหาการนำเข้าชิ้นส่วนต้องเสียภาษีตั้งแต่ร้อยละ 10-40 นั้น ทางสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้รับเรื่องไปศึกษาก่อนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ นักลงทุนให้ความสนใจการจัดตั้ง "วันสตาร์ทวันสต็อปเซอร์วิสเซ็นเตอร์" หรือ OSOS ซึ่งตนในฐานะรองประธาน OSOS จะนำประเด็นปัญหาที่นักลงทุนซักถามไปหารือและแก้ไขในต่อไป เช่น กรณีที่หอการค้าต่างประเทศฯ ยกประเด็นปัญหา พ.ร.บ.การประกอบอาชีพของคนต่างด้าว ที่บัญชีแนบท้ายสงวนอาชีพไว้ และการที่ไทยยังไม่เปิดเสรีธุรกิจบริการนั้น หากพิจารณาแล้วว่าการลงทุนของต่างชาติที่จะเกิดขึ้นเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายก็จะนำไปหารือกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป
สำหรับศูนย์ OSOS คาดว่าจะตั้งสำนักงานที่จามจุรีสแควร์ โดยจะเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนี้ และจะเปิดบริการในช่วงต่อไปให้เร็วที่สุดโดยจะไม่รอการตกแต่งสถานที่ และการทำงานพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุน หากไม่เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ก็จะสามารถพิจารณาคำขอแล้วเสร็จภายใน 60 วัน
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า หอการค้าต่างประเทศฯ ได้สอบถามถึงการให้สิทธิประโยชน์กิจการลอจิสติกส์ โดยต้องการขอให้ได้รับสิทธิไม่เฉพาะในนิคมลอจิสติกส์เท่านั้น นอกนิคมควรได้รับสิทธิด้วย ซึ่งบีโอไอจะรับไปพิจารณาก่อน นอกจากนี้ ยังสนใจสอบถามการลงทุนด้านไอซีที การแก้ไข พ.ร.บ.ธุรกิจต่างด้าว ปัญหาการอนุมัติโครงการลงทุนที่ต้องเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน
ขณะเดียวกันก็สอบถามถึงแนวทางที่จะให้ต่างชาติสามารถถือหุ้นในธุรกิจบริการได้มากขึ้น ซึ่งได้รับไปหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไป ส่วนปัญหาอุตสาหกรรมต่อเรือที่ประสบปัญหาการนำเข้าชิ้นส่วนต้องเสียภาษีตั้งแต่ร้อยละ 10-40 นั้น ทางสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้รับเรื่องไปศึกษาก่อนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
