ASTVผู้จัดการรายวัน- “ชาญชัย”มั่นใจหากการเมืองนิ่ง ยอดการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอครึ่งปีหลังจะอยู่ในระดับ 3 แสนล้านบาท หลังหลายอุตสาหกรรมมีแนวโน้มดีขึ้น พร้อมจัดโรดโชว์อินเดีย 2-6 มิ.ย.นี้ ดึงดูดการลงทุนเพิ่ม
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หากปัจจัยทางการเมืองนิ่งเชื่อว่าการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะมีเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังอีกประมาณ 3 แสนล้านบาท เนื่องจากหลายอุตสาหกรรมเริ่มมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นทั้งอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 2-6 มิ.ย.2552 กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บีโอไอและสถาบันยานยนต์ จะเดินทางไปชักจูงการลงทุน (โรดโชว์) ณ ประเทศอินเดีย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความรู้ความเข้าใจแก่นักธุรกิจในการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยจะหารือร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ของอินเดียใน 2 เมือง ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของอินเดีย ได้แก่ มุมไบ และนิวเดลี พร้อมเยี่ยมชมโรงงานของบริษัท ทาทา มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์เล็กรุ่นนาโนที่มีชื่อเสียงในประเทศอินเดีย
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการ บีโอไอ กล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นผู้ผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ซอฟต์แวร์ เคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สิ่งทอ เป็นต้น เนื่องจากมีความพร้อมจากทั้งด้านแรงงาน และเทคโนโลยี โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศตลาดใหม่ที่บีโอไอให้ความสำคัญ และจะเร่งผลักดันให้เกิดการลงทุนระหว่างไทยและอินเดียมากขึ้น
“ปี 2552 นี้ บีโอไอยังจะจัดคณะชักจูงการลงทุนออกไปยังประเทศอินเดียอย่างน้อยอีก 3 ครั้ง ซึ่งจะรวมถึงการนำนักธุรกิจไทยออกไปดูลู่ทางการลงทุนในประเทศอินเดียด้วย เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตไทยเห็นถึงโอกาสในการเข้าไปลงทุนเพื่อลดต้นทุนการผลิต และขยายตลาดสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศที่มีขนาดตลาดใหญ่เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีมาก”นางอรรชกากล่าว
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หากปัจจัยทางการเมืองนิ่งเชื่อว่าการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะมีเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังอีกประมาณ 3 แสนล้านบาท เนื่องจากหลายอุตสาหกรรมเริ่มมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นทั้งอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 2-6 มิ.ย.2552 กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บีโอไอและสถาบันยานยนต์ จะเดินทางไปชักจูงการลงทุน (โรดโชว์) ณ ประเทศอินเดีย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความรู้ความเข้าใจแก่นักธุรกิจในการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยจะหารือร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ของอินเดียใน 2 เมือง ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของอินเดีย ได้แก่ มุมไบ และนิวเดลี พร้อมเยี่ยมชมโรงงานของบริษัท ทาทา มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์เล็กรุ่นนาโนที่มีชื่อเสียงในประเทศอินเดีย
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการ บีโอไอ กล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นผู้ผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ซอฟต์แวร์ เคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สิ่งทอ เป็นต้น เนื่องจากมีความพร้อมจากทั้งด้านแรงงาน และเทคโนโลยี โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศตลาดใหม่ที่บีโอไอให้ความสำคัญ และจะเร่งผลักดันให้เกิดการลงทุนระหว่างไทยและอินเดียมากขึ้น
“ปี 2552 นี้ บีโอไอยังจะจัดคณะชักจูงการลงทุนออกไปยังประเทศอินเดียอย่างน้อยอีก 3 ครั้ง ซึ่งจะรวมถึงการนำนักธุรกิจไทยออกไปดูลู่ทางการลงทุนในประเทศอินเดียด้วย เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตไทยเห็นถึงโอกาสในการเข้าไปลงทุนเพื่อลดต้นทุนการผลิต และขยายตลาดสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศที่มีขนาดตลาดใหญ่เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีมาก”นางอรรชกากล่าว