นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง "มาตรการด้านสุขภาพจิตเพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในสังคมไทย" พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้สังคมไทยประสบปัญหาวิกฤติหลายด้าน ทั้งการเมือง ภัยธรรมชาติ และโรคระบาด โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งกระทบถึงการท่องเที่ยวด้วย จึงส่งผลให้หัวหน้าครอบครัว และผู้ใช้แรงงานเกิดความเครียดกังวล และหงุดหงิด ซึมเศร้า จึงมีปัญหาทางจิต กรมสุขภาพจิต จึงเปิดสายด่วน 1323 ให้คำปรึกษาสด แก่ประชาชนนอกเหนือจากสายด่วนอัตโนมัติ 1667 และ 1669 นอกจากนี้ ยังตั้งศูนย์ภาวะวิกฤตเพื่อให้คำปรึกษาในโรงพยาบาลสังกัด สธ.ด้วย
นายมานิต กล่าวอีกว่า จากผลสำรวจอุณหภูมิใจของคนไทยในรอบเดือนเมษายน 2552 พบว่าคนไทยมีความเครียดมากถึงมากที่สุดร้อยละ 12.6 ในจำนวนนี้ คิดทำร้ายตัวเองถึงร้อยละ 16 และเคยทำร้ายตัวเองมาแล้วร้อยละ 9 สาเหตุสำคัญ 4 อันดับ คือ ปัญหาการเงิน ครอบครัว การเจ็บป่วยตนเอง และปัญหาสังคม พบประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนส่วนหนึ่งใช้วิธีจัดการกับปัญหาด้วยวิธีที่เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น เช่นดื่มสุรา ร้อยละ 8 สูบบุหรี่ ร้อยละ 6 และเล่นการพนัน ร้อยละ 1 ส่วนวิธีการเผชิญกับปัญหาที่เหมาะสม 5 อันดับแรกที่เลือกใช้มากที่สุด ได้แก่ ดูทีวีหรือภาพยนตร์ ขอคำปรึกษากับผู้อื่น ฟังเพลง ออกกำลังกาย และอยู่กับครอบครัว ดังนั้น สธ.จึงเร่งรณรงค์ให้เพิ่มพลังสุขภาพจิตด้วย "พลังอึด พลังฮึด พลังสู้" เชื่อว่าคนไทยจะผ่านพ้นวิกฤตไปได้
นายมานิต กล่าวอีกว่า จากผลสำรวจอุณหภูมิใจของคนไทยในรอบเดือนเมษายน 2552 พบว่าคนไทยมีความเครียดมากถึงมากที่สุดร้อยละ 12.6 ในจำนวนนี้ คิดทำร้ายตัวเองถึงร้อยละ 16 และเคยทำร้ายตัวเองมาแล้วร้อยละ 9 สาเหตุสำคัญ 4 อันดับ คือ ปัญหาการเงิน ครอบครัว การเจ็บป่วยตนเอง และปัญหาสังคม พบประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนส่วนหนึ่งใช้วิธีจัดการกับปัญหาด้วยวิธีที่เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น เช่นดื่มสุรา ร้อยละ 8 สูบบุหรี่ ร้อยละ 6 และเล่นการพนัน ร้อยละ 1 ส่วนวิธีการเผชิญกับปัญหาที่เหมาะสม 5 อันดับแรกที่เลือกใช้มากที่สุด ได้แก่ ดูทีวีหรือภาพยนตร์ ขอคำปรึกษากับผู้อื่น ฟังเพลง ออกกำลังกาย และอยู่กับครอบครัว ดังนั้น สธ.จึงเร่งรณรงค์ให้เพิ่มพลังสุขภาพจิตด้วย "พลังอึด พลังฮึด พลังสู้" เชื่อว่าคนไทยจะผ่านพ้นวิกฤตไปได้