กทม.เผยผลสำรวจด้านสุขภาพจิตชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากม็อบเสื้อแดงก่อจลาจล พบ “ชาวดินแดง-นางเลิ้ง-เพชรบุรี ซ.7” เครียด ขณะที่ภาพรวมเครียดเพิ่มขึ้น 15% ชี้หากไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดอีก 1 ปี คนกรุงสุขภาพจิตดีขึ้น เผยเตรียมเปิดคลินิกคลายเครียดที่ศาลาว่าการ กทม. 1-2 “สุขุมพันธุ์” เผยการชุมนุมม็อบเสื้อแดงทำกล้อง CCTV เสีย 59 ตัวจากไฟไหม้ ถูกตัดสัญญาณ ทำลายระบบควบคุมสัญญาณ มีการปรับเปลี่ยนมุมกล้อง สรุปเตรียมเพิ่มกล้อง CCTV เป็น 20,000 ตัวใน 4 ปี
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาพจิตของคนกรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุวุ่นวายทางการเมืองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ทางสำนักการแพทย์และสำนักอนามัยของ กทม. ได้ลงพื้นที่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเพื่อประเมินด้านสุขภาพจิต โดยชุมชนนางเลิ้งมีประชากร 2,071 คน พบว่ามีความเครียดจากสถานการณ์การเมืองร้อยละ 25 ชุมชนเพชรบุรีซอย 7 มีประชากร 350 คน มีความเครียดจากสถานการณ์การเมืองร้อยละ 15 ชุมชนชาวแฟลตดินแดง 1-8 มีประชากร 1,779 คน มีความเครียดจากสถานการณ์การเมืองร้อยละ 20 แต่เมื่อดูภาพรวมทั้งกทม.มีความเครียดเพิ่มขึ้นร้อยละ 15
สำหรับการฟื้นฟูสุขภาพจิตชุมชนที่ได้รับผลกระทบนั้น กทม.ได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล นักพัฒนาสังคมลงพื้นที่ให้คำปรึกษา แนะนำ อย่างไรก็ตาม ตนจะนำสรุปรายงานที่ กทม.ได้ดำเนินการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลว่าได้ดำเนินการอย่างไรบ้างในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกทม. แต่เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลจำเป็นต้องมาเยียวยาร่วมด้วย รวมถึงเห็นว่ารัฐบาลควรหาวิธีการสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นโดยเร็วเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นกระทบกับประชาชนโดยตรง
ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการคำปรึกษาด้านสุขภาพจิตหรือความเครียดให้โทรศัพท์มาปรึกษาได้ที่ 1646 สายด่วนคู่ใจ ซึ่งจะมีพยาบาลที่ได้รับการอบรมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้มีโครงการที่จะเปิดคลินิกคลายเครียดที่ศาลาว่าการ กทม.1 เสาชิงช้า และศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดงอีกด้วย
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า ในส่วนของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือกล้อง CCTV มีรายงานความเสียหายระหว่างวันที่ 8-16 เม.ย.ที่ผ่านมาว่ามีกล้อง CCTV เสียหายจำนวน 59 ตัว ที่แยก จปร. ยมราช สะพานมัฆวานฯ นางเลิ้ง แยกสวนรื่น บางขุนพรหม โดยมีสาเหตุมาจากไฟไหม้ ถูกตัดสัญญาณ ทำลายระบบควบคุมสัญญาณ มีการปรับเปลี่ยนมุมกล้อง อย่างไรก็ตาม กทม.จะดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 เม.ย.นี้
นอกจากนี้ จะมีการติดตั้งกล้อง CCTV ให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม.ให้มากขึ้น ทั้งพื้นที่ชั้นใน ถนนสายหลัก อีก 1,700 ตัว คาดจะแล้วเสร็จเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้ กทม.มีกล้อง CCTV มากกว่า 3,000 ตัว ทั้งนี้ ในระยะยาวจากเดิมที่ตั้งเป้า 4 ปีจะต้องติดตั้งกล้อง CCTV ให้ได้ 10,000 ตัวนั้น ตนมีนโยบายจะเพิ่มการติดตั้งอีก 10,000 ตัว รวมเป็น 20,000 ตัว ใน 4 ปี
ด้านนายไกรจักร แก้วนิล รองปลัด กทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่นั้นปัญหาที่พบ แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ปัญหาส่วนตัว ปัญหาทางชุมชน และปัญหาทางสังคม เบื้องต้น กทม.ได้เปิดคลินิกจิตเวชให้บริการแก่ผู้ที่มีปัญหาทางจิตจริงถึงขั้นเกือบเป็นโรคจิต สังกัดสำนักการแพทย์ 4 แห่ง และสังกัดสำนักอนามัย 6 แห่ง ให้บริการสายด่วนคู่ใจ ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1646 ผ่านศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน โดยจัดเจ้าหน้าที่และพยาบาลที่มีความรู้ความเข้าใจ ผ่านการอบรมพิเศษคอยให้คำปรึกษา แนะนำ ปัญหาด้านจิต ปัญหาความเครียด ปัญหาสุขภาพทั้งทางกายและใจ ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนพื้นที่ที่มีความรุนแรงมีผู้เสียชีวิต ได้จัดทีมปฏิบัติงานลงพื้นที่ ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อช่วยเหลือ ดูแลเกี่ยวกับสุขภาพจิตของคนในชุมชน รวมถึงจะจัดให้มีการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ การป้องกันและแก้ปัญหาความเครียดผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะได้หารือความเหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ จะผลักดันให้ประชาชนใช้บริการ และร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ กทม.จัดเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการออกกำลังกาย การอ่านหนังสือ การพักผ่อน กิจกรรมเกี่ยวกับดนตรี เช่น ห้องสมุดเคลื่อนที่ของ กทม. กิจกรรมดนตรีในสวน และกิจกรรมอื่นๆ ที่ช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย ในอนาคตอาจจะมีการจ้างผู้ที่ว่างงานเป็นหัวหน้าทีมชักชวนคนกรุงเทพฯ ใช้บริการต่างๆ ให้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นอีกสุขภาพจิตของคนกรุงเทพฯ จะดีขึ้นภายใน 1 ปี
