นายประทีป จิรกิติ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ "Think Better Think Cool" โดยมีนายชวลิต มโนวิลาศ ประธานบริษัท คอมมี คอร์เปอเรชั่น จำกัด ร่วมแถลงข่าว โดยระบุว่า ปัจจุบันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความจำเป็นในการสื่อสารมากขึ้น ซึ่งหาได้ง่ายและมีราคาถูกลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ปัจจุบันมีขยะอันตรายประเภทอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ จากรายงานของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ปี 2545 มีขยะอันตรายทั่วประเทศ 386,000 ตัน และจะเพิ่มเป็น 595,000 ตันในปี 2560 และเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์ใน กทม.มีมากถึง 9,000 ตันต่อปี มีขยะจากมือถือ ซึ่ง 1 เครื่องมีอุปกรณ์มากกว่า 1,000 ชิ้น ในแบตเตอรี่มือถือ ประกอบด้วยสารโลหะหนักจำพวกตะกั่ว ปรอท สังกะสี ทองแดง หากไม่ได้รับการกำจัดและจัดเก็บอย่างถูกวิธี สารเคมีเหล่านี้จะปนเปื้อนในดิน น้ำ อากาศ และจะส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.จึงร่วมกับภาคเอกชนจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่มือถือ ออกจากขยะทั่วไป ทิ้งในกล่องที่เตรียมไว้ เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่ง กทม.ได้รับมอบกล่องแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ จากบริษัทคอมมีฯจำนวน 82 กล่อง จะนำไปตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ในหน่วยงานของ กทม.สำนักงานเขต 50 เขต โรงพยาบาลในสังกัด และบริษัทฯ จะนำกล่องไปตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ในห้างสรรพสินค้าจำนวน 1,000 กล่อง เพื่อให้ประชาชนทิ้งขยะได้สะดวก จากนั้นแบตเตอรี่มือถือ ทางบริษัทยูมิคอร์ จำกัด จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำจัด โดยจะส่งไปให้บริษัทแม่ที่ประเทศเบลเยียมผ่านระบบรีไซเคิลเพื่อนำส่วนประกอบที่เป็นโลหะหนักมาใช้ได้ใหม่
ทั้งนี้ จากรายงานของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ปี 2545 มีขยะอันตรายทั่วประเทศ 386,000 ตัน และจะเพิ่มเป็น 595,000 ตันในปี 2560 และเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์ใน กทม.มีมากถึง 9,000 ตันต่อปี มีขยะจากมือถือ ซึ่ง 1 เครื่องมีอุปกรณ์มากกว่า 1,000 ชิ้น ในแบตเตอรี่มือถือ ประกอบด้วยสารโลหะหนักจำพวกตะกั่ว ปรอท สังกะสี ทองแดง หากไม่ได้รับการกำจัดและจัดเก็บอย่างถูกวิธี สารเคมีเหล่านี้จะปนเปื้อนในดิน น้ำ อากาศ และจะส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.จึงร่วมกับภาคเอกชนจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่มือถือ ออกจากขยะทั่วไป ทิ้งในกล่องที่เตรียมไว้ เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่ง กทม.ได้รับมอบกล่องแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ จากบริษัทคอมมีฯจำนวน 82 กล่อง จะนำไปตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ในหน่วยงานของ กทม.สำนักงานเขต 50 เขต โรงพยาบาลในสังกัด และบริษัทฯ จะนำกล่องไปตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ในห้างสรรพสินค้าจำนวน 1,000 กล่อง เพื่อให้ประชาชนทิ้งขยะได้สะดวก จากนั้นแบตเตอรี่มือถือ ทางบริษัทยูมิคอร์ จำกัด จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำจัด โดยจะส่งไปให้บริษัทแม่ที่ประเทศเบลเยียมผ่านระบบรีไซเคิลเพื่อนำส่วนประกอบที่เป็นโลหะหนักมาใช้ได้ใหม่