สธ.เปิดศูนย์อาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม ในเขตมาบตาพุด เน้นตรวจตรวจรักษาโรคที่เกิดจากสารเคมี มลพิษ ทุ่มงบ 225 ล. ปรับปรุงรพ.มาบตาพุด เป็นรพ.ด้านอาชีวเวชศาสตร์ 200 เตียง พร้อมจัดซื้อรถตรวจสุขภาพเข้าถึงประชาชนในพื้นที่นอกพื้นที่ 13,000 คน
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่ จ.ระยอง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดศูนย์อาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม จ.ระยอง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณโรงพยาบาลมาบตาพุดใหม่ ต.หนองแฟบ ถ.สุขุมวิท โดยเป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและศูนย์บริการด้านอาชีวเวชศาสตร์เป็นการเฉพาะ พร้อมทั้งปล่อยคาราวานรถตรวจสุขภาพในโครงการตรวจสุขภาพและเฝ้าระวังโรคประชาชนในเขตพัฒนาบริการสาธารณสุข ในเขตควบคุมมลพิษ จ.ระยอง ซึ่งวันนี้ออกให้บริการเป็นครั้งแรกที่ วัดหนองแฟบ ตามนโยบายแก้ไขปัญหาเร่งด่วนมาบตาพุด ของรัฐบาล
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการพัฒนาบริการสาธารณสุขในเขตควบคุมมลพิษ จ.ระยอง รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) วงเงิน 294.54 ล้านบาท ระหว่างปี 2553-2555 ดำเนินการ 2 โครงการ ได้แก่โครงการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาล ที่อยู่ใกล้เคียงเขตควบคุมมลพิษ ให้สามารถตรวจรักษาโรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพ โรคจากมลพิษสิ่งแวดล้อม โรคหรืออุบัติภัยจากสารเคมีอันตราย และโครงการตรวจสุขภาพ เพื่อเฝ้าระวังโรคประชาชนที่อาศัยบริเวณเขตควบคุมมลพิษ
นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ตามโครงการพัฒนาครั้งนี้ สธ. จะพัฒนาโรงพยาบาลมาบตาพุด ให้เป็นโรงพยาบาลด้านอาชีว เวชศาสตร์ขนาด 200 เตียง รักษาโรคจากการประกอบอาชีพ โรคจากสิ่งแวดล้อม และโรคหรืออุบัติภัยจากสารเคมีอันตรายที่มีความซับซ้อนไม่มาก เพื่อรองรับผู้ป่วยในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ใช้งบประมาณ 225 ล้านกว่าบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดบริการได้ภายในปี 2555 และพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลระยอง ทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือ ให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคด้านอาชีวเวชศาสตร์ ประจำภาคตะวันออก บริการตรวจรักษาโรคจากการประกอบอาชีพ และรักษาพิษจากสารเคมีต่างๆที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมทุกประเภท ใช้งบประมาณ 10 ล้านกว่าบาท
สำหรับ โครงการตรวจสุขภาพและเฝ้าระวังโรคประชาชน ที่อาศัยบริเวณเขตควบคุมมลพิษ จ.ระยอง ใช้งบประมาณ 58 ล้านกว่าบาท โดยในปี 2553 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองและโรงพยาบาลชุมชนเครือข่าย จะ จัดทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ พร้อมรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ ออกตรวจสุขภาพประชาชนใน 31 ชุมชนที่อยู่รอบๆนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด แบ่งเป็นในเขตควบคุมมลพิษ จำนวน 10,000 คน และนอกเขตควบคุมมลพิษ 3,000 คน ใช้งบประมาณ 24 ล้านกว่าบาท โดยจะจัดซื้อรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ 2 คัน วงเงิน 7 ล้านบาท วางแผนออกให้บริการ 30 ครั้ง ตั้งเป้าให้บริการครั้งละกว่า 300 คน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.นี้ คาดว่าจะครบทุกชุมชนในเดือนพ.ค.2553
นพ. ไพจิตร์ กล่าวอีกว่า ในการตรวจสุขภาพดังกล่าว แพทย์จะตรวจร่างกาย ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือดดูการทำงานของตับ เอ็กซเรย์ทรวงอก ประเมินการสัมผัสสารเคมี ตรวจสารโลหะหนัก สารหนู แมงกานิส ตะกั่ว ปรอท โดยเน้นกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยโดยรอบบ่อน้ำที่พบสารโลหะหนักเกินมาตรฐาน 500 คน การคัดกรองครั้งนี้ จะใช้เป็นฐานข้อมูลสุขภาพของประชาชน ประเมินเปรียบเทียบผลก่อนและหลังดำเนินโครงการ รวมทั้งคัดกรองแยกกลุ่มป่วย กลุ่มเสี่ยงที่จะป่วย เพื่อให้การดูแลรักษา