การตัดสินใจของที่ประชุมระดับรัฐมนตรีขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก)เมื่อวันพฤหัสบดี(28) ที่จะคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบไว้ในระดับเดิม ทั้งที่ปัจจุบันปริมาณสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดนี้อยู่ในสภาพล้นตลาดโลก เป็นการสะท้อนถึงความมั่นใจของโอเปก ที่เชื่อว่าอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันจะทะยานสูงขึ้นในช่วงต่อไปของปีนี้ ทั้งนี้ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ ทางด้านราคาน้ำมันในตลาดโลกวันศุกร์(29) ปรากฏว่าทะยานทะลุหลัก 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นการสร้างสถิติใหม่ราคาสูงสุดในรอบ 6 เดือน
จากตัวเลขซึ่งเป็นที่เปิดเผยกัน ปัจจุบันปริมาณน้ำมันสำรองในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ เทียบเท่ากับความต้องการใช้น้ำมันเป็นเวลาถึง 2 เดือน บางประเทศถึงกับต้องใช้เรือบรรทุกน้ำมันที่ลอยลำอยู่ในทะเล เป็นคลังเก็บน้ำมันสำรองส่วนเกินซึ่งไม่มีที่เก็บหลายล้านบาร์เรล
สถานการณ์ดังกล่าว โดยปกติแล้วจะเป็นแรงกดดันให้ราคาน้ำมันในตลาดลดต่ำลง แต่ในความเป็นจริงราคาน้ำมันดิบในตลาดกลับทะยานขึ้นเหนือระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาเรลมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว ดังนั้นกลุ่มโอเปกจึงตัดสินใจคงระดับเพดานการผลิตไว้ที่ระดับเดิม ด้วยความมั่นใจว่าความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จะดูดซับปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดให้หมดไปได้ในอนาคตอันใกล้นี้
จากตัวเลขซึ่งเป็นที่เปิดเผยกัน ปัจจุบันปริมาณน้ำมันสำรองในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ เทียบเท่ากับความต้องการใช้น้ำมันเป็นเวลาถึง 2 เดือน บางประเทศถึงกับต้องใช้เรือบรรทุกน้ำมันที่ลอยลำอยู่ในทะเล เป็นคลังเก็บน้ำมันสำรองส่วนเกินซึ่งไม่มีที่เก็บหลายล้านบาร์เรล
สถานการณ์ดังกล่าว โดยปกติแล้วจะเป็นแรงกดดันให้ราคาน้ำมันในตลาดลดต่ำลง แต่ในความเป็นจริงราคาน้ำมันดิบในตลาดกลับทะยานขึ้นเหนือระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาเรลมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว ดังนั้นกลุ่มโอเปกจึงตัดสินใจคงระดับเพดานการผลิตไว้ที่ระดับเดิม ด้วยความมั่นใจว่าความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จะดูดซับปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดให้หมดไปได้ในอนาคตอันใกล้นี้