นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ระบุว่า รัฐบาลควรเร่งเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่ม ในส่วนของน้ำมันเบนซิน 91 อีกลิตรละ 3 บาท จากปัจจุบันเก็บที่ลิตรละ 4 บาท เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันขายปลีกลดลงต่อเนื่อง และจะมีแนวโน้มอยู่ที่เพียงลิตรละ 20 บาท จากปัจจุบันที่ลิตรละ 21.39 บาท ทำให้ประชาชนมีพฤติกรรมใช้น้ำมันฟุ่มเฟือย รวมทั้งเป็นการตรึงค่าการตลาดของผู้ประกอบการน้ำมันไม่ให้สูงเกินไป
ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ขยายเพดานจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อีกลิตรละ 3 บาท สำหรับน้ำมันเบนซิน 95 ทำให้ค่าการตลาดลดลงอยู่ที่ลิตรละ 2.64 บาท โดยสถานะเงินกองทุนเดือนที่แล้ว อยู่ที่ 3,141 ล้านบาท
สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งกลุ่มโอเปกมีมติลดกำลังการผลิตลงวันละ 2.2 ล้านบาร์เรล มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนหน้า ไม่ทำให้ราคาซื้อขายน้ำมันดิบไนเม็กซ์เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่กลับลดลงไปถึง 3.54 ดอลลาร์ โดยปิดที่ 40.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี
นายมนูญ กล่าวอีกว่า แม้จะมีการปรับลดกำลังการผลิต แต่ราคาซื้อขายยังลดลง เพราะตลาดไม่ให้ความเชื่อถือในมติครั้งนี้ว่าจะลดได้จริงหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่สามารถลดกำลังการผลิตได้ตามที่ตกลงไว้ คือวันละ 2 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันน้ำมันดิบในคลังประเทศสหรัฐฯ ยังมีปริมาณสูงขึ้น รวมทั้งเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกรอเทียบท่าเพื่อรอคำสั่งซื้อ ซึ่งแสดงว่าขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามาแต่อย่างใด และมีความเป็นไปได้ในอนาคตที่ว่า ราคาน้ำมันดิบจะลงลงมาอยู่ที่ประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หากเศรษฐกิจโลกยังคงถดถอย และตลาดไม่เชื่อถือมติของกลุ่มโอเปกอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ขยายเพดานจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อีกลิตรละ 3 บาท สำหรับน้ำมันเบนซิน 95 ทำให้ค่าการตลาดลดลงอยู่ที่ลิตรละ 2.64 บาท โดยสถานะเงินกองทุนเดือนที่แล้ว อยู่ที่ 3,141 ล้านบาท
สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งกลุ่มโอเปกมีมติลดกำลังการผลิตลงวันละ 2.2 ล้านบาร์เรล มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนหน้า ไม่ทำให้ราคาซื้อขายน้ำมันดิบไนเม็กซ์เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่กลับลดลงไปถึง 3.54 ดอลลาร์ โดยปิดที่ 40.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี
นายมนูญ กล่าวอีกว่า แม้จะมีการปรับลดกำลังการผลิต แต่ราคาซื้อขายยังลดลง เพราะตลาดไม่ให้ความเชื่อถือในมติครั้งนี้ว่าจะลดได้จริงหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่สามารถลดกำลังการผลิตได้ตามที่ตกลงไว้ คือวันละ 2 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันน้ำมันดิบในคลังประเทศสหรัฐฯ ยังมีปริมาณสูงขึ้น รวมทั้งเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกรอเทียบท่าเพื่อรอคำสั่งซื้อ ซึ่งแสดงว่าขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามาแต่อย่างใด และมีความเป็นไปได้ในอนาคตที่ว่า ราคาน้ำมันดิบจะลงลงมาอยู่ที่ประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หากเศรษฐกิจโลกยังคงถดถอย และตลาดไม่เชื่อถือมติของกลุ่มโอเปกอีกต่อไป
