นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ตามที่ พ.ร.บ.พรรคการเมือง กำหนดให้ประชาชนสามารถบริจาคเงินภาษีให้แก่พรรคการเมืองต่างๆ ได้นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปรากฏว่ามีผู้ยื่นแบบทั้งสิ้น 9,338,260 ราย และจากการรายงานการประมวลผลเบื้องต้น ตรวจสอบแล้ว 7,618,313 ราย คิดเป็นร้อยละ 81.58 ซึ่งมีผู้แสดงเจตนาบริจาคให้พรรคการเมืองที่ดำเนินการอยู่ 61 พรรค ทั้งสิ้น 66,364 ราย และไม่ได้ระบุรหัสพรรคการเมือง หรือรหัสไม่ถูกต้อง จำนวน 33 ราย
นายสุทธิพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ประสงค์บริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด จำนวน 57,124 ราย ตามมาห่างๆ ด้วยพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีผู้ประสงค์บริจาค 7,260 ราย พรรคชาติไทยพัฒนา มีผู้ประสงค์บริจาคเพียง 266 ราย พรรคภูมิใจไทย 100 ราย พรรคเพื่อแผ่นดิน 48 ราย และพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 39 ราย
ทั้งนี้ หากคิดด้วยฐานปัจจุบัน บวกกับเงินร้อยละ 5 ที่รัฐบาลจะสมทบ พรรคประชาธิปัตย์จะได้รับเงินทั้งสิ้น 5,998,020 บาท ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้ 762,300 บาท พรรคชาติไทยพัฒนา 27,930 บาท พรรคภูมิใจไทย 10,500 บาท พรรคเพื่อแผ่นดิน 5,040 บาท พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 4,095 บาท
นายสุทธิพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ประสงค์บริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด จำนวน 57,124 ราย ตามมาห่างๆ ด้วยพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีผู้ประสงค์บริจาค 7,260 ราย พรรคชาติไทยพัฒนา มีผู้ประสงค์บริจาคเพียง 266 ราย พรรคภูมิใจไทย 100 ราย พรรคเพื่อแผ่นดิน 48 ราย และพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 39 ราย
ทั้งนี้ หากคิดด้วยฐานปัจจุบัน บวกกับเงินร้อยละ 5 ที่รัฐบาลจะสมทบ พรรคประชาธิปัตย์จะได้รับเงินทั้งสิ้น 5,998,020 บาท ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้ 762,300 บาท พรรคชาติไทยพัฒนา 27,930 บาท พรรคภูมิใจไทย 10,500 บาท พรรคเพื่อแผ่นดิน 5,040 บาท พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 4,095 บาท