นายบุญสนอง สุชาติพงศ์ โฆษกกรมชลประทาน กล่าวถึงการรองรับปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกชุกทั่วประเทศในระยะนี้ว่า ปริมาณน้ำในเขื่อน และอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลาง มีปริมาณรวมกันอยู่ที่ประมาณ 40,700 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 55 ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้อีกประมาณ 32,600 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานของกรมชลประทานทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปริมาณน้ำให้ได้มากที่สุด เพื่อกักเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้า และจะบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณฝน และภูมิอากาศ ซึ่งได้ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ให้บริหารจัดการน้ำได้อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม จากปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำภูมิภาคต่างๆ เนื่องจากเขื่อนที่อยู่ใกล้เคียงจะมีการผันน้ำลงสู่แม่น้ำและทะเลให้น้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม จากปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำภูมิภาคต่างๆ เนื่องจากเขื่อนที่อยู่ใกล้เคียงจะมีการผันน้ำลงสู่แม่น้ำและทะเลให้น้อยที่สุด