คณะรัฐบาลสหรัฐฯเมื่อวันพุธ (12) เสนอระเบียบใหม่ในการกำกับดูแลการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ อันเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความซับซ้อน ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่นำไปสู่วิกฤตการเงินของโลกเมื่อปีที่แล้ว
ระเบียบใหม่มีเป้าหมายที่จะป้องกันมิคสัญญีทางการเงินที่เกิดขึ้นหลังจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่งล้มครืนลงจากการค้าตราสารอนุพันธ์ โดยที่เห็นได้ชัดก็คือ วาณิชธนกิจ เลห์แมน บราเธอร์ส ในขณะที่บริษัทเอไอจี ก็ประสบภาวะขาดทุนมหาศาลจนราคาหุ้นดิ่งเหว และตกจากอันดับบริษัทประกันภัยใหญ่ที่สุดในโลกเพราะขนาดสินทรัพย์เหลือไม่ถึงครึ่งของระดับเดิม
ระเบียบที่นำเสนอโดยกระทรวงการคลังนี้ เรียกร้องให้กำหนดเงื่อนไขด้านเงินทุนสำหรับบริษัทที่ค้าตราสารอนุพันธ์ นอกจากนี้ยังกำหนดให้ตราสารประเภทเหล่านี้จำนวนมาก จะต้องซื้อขายผ่านทางกิจการที่มีการกำหนดระเบียบควบคุมเอาไว้
ในปัจจุบันแต่ละวันจะมีการค้าตราสารอนุพันธ์เป็นมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีทั้งประเภทที่เป็นสัญญาตราสารฟิวเจอร์ และสัญญาออปชั่นต่าง ๆ โดยจำนวนมากทีเดียวซื้อขายกันนอกตลาดที่มีกฎระเบียบคุมเข้ม
ตราสารอนุพันธ์ประเภทที่มีการกล่าวขวัญกันถึงว่า เป็นต้นเหตุแห่งวิกฤตมากที่สุด ก็คือ เครดิต ดีฟอลต์ สวอป (credit default swap) ซึ่งเป็นตราสารที่รับประกันว่าหากมีหลักทรัพย์บางชนิดที่ผู้ซื้อเครดิต ดีฟอลต์ สวอป ถือเอาไว้ เกิดเสียหายไป ผู้ซื้อก็จะได้รับเงินทดแทนจากบริษัทที่ออกตราสารนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ซึ่งเป็นตำนานของนักลงทุนสหรัฐฯถึงกับเรียกตราสารชนิดนี้ว่า "อาวุธการเงินที่มีอำนาจการทำลายล้างสูง"
ระเบียบใหม่มีเป้าหมายที่จะป้องกันมิคสัญญีทางการเงินที่เกิดขึ้นหลังจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่งล้มครืนลงจากการค้าตราสารอนุพันธ์ โดยที่เห็นได้ชัดก็คือ วาณิชธนกิจ เลห์แมน บราเธอร์ส ในขณะที่บริษัทเอไอจี ก็ประสบภาวะขาดทุนมหาศาลจนราคาหุ้นดิ่งเหว และตกจากอันดับบริษัทประกันภัยใหญ่ที่สุดในโลกเพราะขนาดสินทรัพย์เหลือไม่ถึงครึ่งของระดับเดิม
ระเบียบที่นำเสนอโดยกระทรวงการคลังนี้ เรียกร้องให้กำหนดเงื่อนไขด้านเงินทุนสำหรับบริษัทที่ค้าตราสารอนุพันธ์ นอกจากนี้ยังกำหนดให้ตราสารประเภทเหล่านี้จำนวนมาก จะต้องซื้อขายผ่านทางกิจการที่มีการกำหนดระเบียบควบคุมเอาไว้
ในปัจจุบันแต่ละวันจะมีการค้าตราสารอนุพันธ์เป็นมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีทั้งประเภทที่เป็นสัญญาตราสารฟิวเจอร์ และสัญญาออปชั่นต่าง ๆ โดยจำนวนมากทีเดียวซื้อขายกันนอกตลาดที่มีกฎระเบียบคุมเข้ม
ตราสารอนุพันธ์ประเภทที่มีการกล่าวขวัญกันถึงว่า เป็นต้นเหตุแห่งวิกฤตมากที่สุด ก็คือ เครดิต ดีฟอลต์ สวอป (credit default swap) ซึ่งเป็นตราสารที่รับประกันว่าหากมีหลักทรัพย์บางชนิดที่ผู้ซื้อเครดิต ดีฟอลต์ สวอป ถือเอาไว้ เกิดเสียหายไป ผู้ซื้อก็จะได้รับเงินทดแทนจากบริษัทที่ออกตราสารนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ซึ่งเป็นตำนานของนักลงทุนสหรัฐฯถึงกับเรียกตราสารชนิดนี้ว่า "อาวุธการเงินที่มีอำนาจการทำลายล้างสูง"