การประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาการปฏิรูปการเมือง นัดประชุมนัดแรก มีการเลือกตั้งตำแหน่งประธาน และรองประธานคณะอนุกรรมการ ที่ประชุมมีมติเลือกนายประเสริฐ ชิตพงศ์ ส.ว.สงขลา เป็นประธานฯ นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร เป็นรองประธาน และนายอนุสรณ์ ธรรมใจ เป็นเลขานุการฯ
นายประเสริฐ แถลงผลการหารือว่า ที่ประชุมได้วางแนวทางวิธีการในการปฏิรูปการเมือง ไว้ 5 ประเด็น คือ 1.โครงสร้างรัฐธรรมนูญ เน้นปี 2540 และปี 2550 ว่าจะต้องมีการปรับปรุงหรือไม่ 2.วัฒนธรรมทางการเมือง และวีถีประชาธิปไตยของพลเมือง 3.หลักกฎหมาย และกฎเกณฑ์ ระเบียบ วิธีปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องกับการพัฒนาและปฏิรูปการเมือง 4.บทบาททางการเมืองของภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ภาคพลเมือง ภาคนิติบัญญัติ และภาคหน่วยงานรัฐ และองค์กรอิสระต่างๆ 5.แนวทางการขับเคลื่อน ซึ่งจะมีการรวบรวมงานวิจัย เรื่องการปฏิรูปการเมือง มาร่วมศึกษาเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว รวมไปถึงเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากจังหวัดต่างๆ
นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมมีความเห็นถึงเรื่องการทำประชามติว่า อาจไม่เหมาะสม สภาวะเศรษฐกิจไทยปัจจุบัน เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และใช้ระยะเวลาดำเนินการ จึงจะใช้การทำโพลแทน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความเห็นว่าควรเน้นในประเด็นที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และมาตรา 291 เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมือง
นายประเสริฐ แถลงผลการหารือว่า ที่ประชุมได้วางแนวทางวิธีการในการปฏิรูปการเมือง ไว้ 5 ประเด็น คือ 1.โครงสร้างรัฐธรรมนูญ เน้นปี 2540 และปี 2550 ว่าจะต้องมีการปรับปรุงหรือไม่ 2.วัฒนธรรมทางการเมือง และวีถีประชาธิปไตยของพลเมือง 3.หลักกฎหมาย และกฎเกณฑ์ ระเบียบ วิธีปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องกับการพัฒนาและปฏิรูปการเมือง 4.บทบาททางการเมืองของภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ภาคพลเมือง ภาคนิติบัญญัติ และภาคหน่วยงานรัฐ และองค์กรอิสระต่างๆ 5.แนวทางการขับเคลื่อน ซึ่งจะมีการรวบรวมงานวิจัย เรื่องการปฏิรูปการเมือง มาร่วมศึกษาเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว รวมไปถึงเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากจังหวัดต่างๆ
นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมมีความเห็นถึงเรื่องการทำประชามติว่า อาจไม่เหมาะสม สภาวะเศรษฐกิจไทยปัจจุบัน เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และใช้ระยะเวลาดำเนินการ จึงจะใช้การทำโพลแทน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความเห็นว่าควรเน้นในประเด็นที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และมาตรา 291 เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมือง
