นายวิเชียร พวงลำเจียก อุปนายกสมาคมชาวนาไทย เปิดเผยว่า ตนเห็นด้วยหากภาครัฐ จะมีการออกกฎหมาย และยกเลิกการผลิตปุ๋ยเคมีในประเทศไทย เนื่องจากปุ๋ยเคมีเป็นสารอันตรายต่อชาวนาและเกษตรกร ที่สำคัญยังเป็นตัวการทำลายสภาพแวดล้อมและธรรมชาติ ซึ่งหากมีการยกเลิกจริง ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องลงมาส่งเสริมอย่างจริงจังในการใช้ปุ๋ยชีวภาพ
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า ตนเองยึดถือแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ด้วยการทำนาแบบผสมผสาน หันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพนานหลายปีแล้ว แม้ครั้งแรกจะมีปัญหาเรื่องแมลงศัตรูพืชบ้าง แต่เมื่อใช้มานานแมลงศัตรูพืชก็น้อยลงไปเอง ขณะที่ นที่ข้างเคียงทำการเกษตร และมีการใช้สารเคมี ก็จะทำให้แมลงศัตรูพืชหนีมาลงในพื้นที่แปลงนาของตนเองบ้าง แต่ตามพระราชดำรัสของพระองค์ จึงคิดค้นวิธีกำจัดแมลงศัตรูพืชตามแบบธรรมชาติ และปัจจุบันยังใช้วิธีแบบธรรมชาติ และนับว่าเป็นแปลงเดียวในพื้นที่ ต.โคกช้าง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ยึดแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สำหรับต้นทุนการผลิตต่อไร่ของนาข้าวที่ใช้ปุ๋ยชีวภาพ เทียบกับการใช้สารเคมี แตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยต่อไร่จะมีต้นทุนเหลือมากกว่า 5,000 บาท หากใช้สารชีวภาพ แม้หลายคนจะมองว่าทำนาแบบเก่าตนเองก็จะทำต่อไป เพราะถือว่าคุ้มทุนและยังช่วยพัฒนาธรรมชาติในพื้นที่ให้กลับมาดีเหมือนเดิมด้วย
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า ตนเองยึดถือแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ด้วยการทำนาแบบผสมผสาน หันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพนานหลายปีแล้ว แม้ครั้งแรกจะมีปัญหาเรื่องแมลงศัตรูพืชบ้าง แต่เมื่อใช้มานานแมลงศัตรูพืชก็น้อยลงไปเอง ขณะที่ นที่ข้างเคียงทำการเกษตร และมีการใช้สารเคมี ก็จะทำให้แมลงศัตรูพืชหนีมาลงในพื้นที่แปลงนาของตนเองบ้าง แต่ตามพระราชดำรัสของพระองค์ จึงคิดค้นวิธีกำจัดแมลงศัตรูพืชตามแบบธรรมชาติ และปัจจุบันยังใช้วิธีแบบธรรมชาติ และนับว่าเป็นแปลงเดียวในพื้นที่ ต.โคกช้าง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ยึดแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สำหรับต้นทุนการผลิตต่อไร่ของนาข้าวที่ใช้ปุ๋ยชีวภาพ เทียบกับการใช้สารเคมี แตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยต่อไร่จะมีต้นทุนเหลือมากกว่า 5,000 บาท หากใช้สารชีวภาพ แม้หลายคนจะมองว่าทำนาแบบเก่าตนเองก็จะทำต่อไป เพราะถือว่าคุ้มทุนและยังช่วยพัฒนาธรรมชาติในพื้นที่ให้กลับมาดีเหมือนเดิมด้วย