น่าน - ภัยแล้งคุกคามไร่ข้าวโพดหวานของเกษตรกร ใบเริ่มเหลือง มีราขึ้นตามลำต้น คาดผลผลิตจะไม่สมบูรณ์ขายไม่ได้ราคา วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งช่วยแก้ปัญหา
รายงานข่าวจากจังหวัดน่านแจ้งว่า เกษตรกรปลูกข้าวโพดหวาน เพื่อขายสร้างรายได้ช่วงแล้งที่จะมีราคาดี กำลังหมดหวังเพราะภัยแล้งคุกคาม ใบเริ่มมีสีเหลือง ลำต้นแคระแกรน นักวิชาการเกษตรเผยเป็นโรคราน้ำค้าง สาเหตุมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด
นายบุญมี ธรรมสอน อายุ74 ปี บ้านเลขที่ 86 ม.4 ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง เกษตรกรปลูกข้าวโพด กล่าวว่า ตนได้ปลูกข้าวโพด เมื่อต้นมกราคม 2552 ที่ผ่านโดยทุกปีก็ปลูกช่วงนี้ในพื้นที่ใกล้น้ำ ขายทำรายได้ในฤดูแล้งเป็นเงินหลายหมื่นบาท แต่ปีนี้จากปัญหาภัยแล้งที่มาเร็วกว่าปกติ จึงทำให้ข้าวโพดหวานที่ปลูกประสบปัญหา ข้าวโพดเป็นรา
ในปีก่อนและปีผ่านๆ มา ตนจะปลูกข้าวโพดหวานในราวเดือนมกราคม มาตลอดและไม่เคยประสบปัญหาโรคแบบนี้ ที่เดิมมักระบาดในข้าวโพดหวานที่เริ่มปลูกในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป แต่ปีนี้หน้าร้อนมาเร็วกว่าทุกปี อีกทั้งสภาพอากาศยังแปรปรวน ตอนเช้ามีหมอกลงอากาศเย็น กลางวันกลับร้อนจัดแดดเปรี้ยงและร้อนเร็วกว่าทุกปี ทำให้ข้าวโพดหวานไม่สามารถปรับตัวกับสภาพอากาศได้ทัน จึงทำให้ใบของต้นข้าวโพดมีจุดด่างขาว หากปล่อยไว้นานเข้าจะทำให้ต้นข้าวโพดเหี่ยว ใบลีบ เป็นรูคล้ายโดนแมลงเจาะ พอเข้าฝักข้าวโพดก็จะมีฝักเล็กแคระแกรน เมล็ดเล็กลีบ ไม่มีน้ำหนัก ขายไม่ได้ราคา
นอกจากนี้ เกษตรกรปลูกข้าวโพดอีกหลายรายในพื้นที่ใกล้เคียงก็ประสบปัญหาแบบเดียวกัน จึงอยากขอให้ทางเกษตรจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาช่วยดูแลแนะนำหรือหายาที่ใช้กำจัดโรคนี้ได้ผลดี และหาวิธีกำจัดปัญหาราน้ำค้างในระยะยาวให้ เพราะที่ผ่านมาพวกเกษตรกรก็ได้ใช้สารชีวภาพหลายชนิด แต่ก็ยังไม่ได้ผล หากจะใช้สารเคมีรุนแรงก็เกรงจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะอาจตกค้างในฝักข้าวโพดหวานได้ แถมยังเพิ่มต้นทุนการผลิตอีกมากเกรงจะขาดทุนไปมากกว่าที่เห็น
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน กล่าวว่า สำหรับปัญหาข้าวโพดเป็นแบบนี้เกิดจากโรคราน้ำค้าง ที่มีสาเหตุเป็นเพราะอากาศในพื้นที่จังหวัดน่าน ช่วงเช้ายังมีหมอกลงและอากาศเย็น แต่ในช่วงกลางวันอากาศจะร้อนจัดและแล้งมาก
ปีนี้สภาพอากาศร้อนแบบนี้มาเร็วกว่าปกติ เมื่ออากาศเย็นกระทบร้อน จึงส่งผลให้ข้าวโพดปรับสภาพไม่ได้ ใบเริ่มเป็นจุดขาวด่างแล้วก็เริ่มเหี่ยวไปจนไหม้ พอพื้นที่ใบมีสีเขียวน้อย ทำให้การปรุงอาหารไปเลี้ยงฝักลดลง ส่งผลให้ฝักจะเล็กแกรน เมล็ดไม่สมบูรณ์ น้ำหนักเบา
ข้าวโพดหวานเป็นพืชอายุสั้น ที่เกษตรกรในพื้นที่ชลประทาน หรือพื้นที่ที่น้ำเข้าถึง โดยเฉพาะ 2 ฝั่งลำน้ำน่าน บริเวณ อ.ท่าวังผา อ.ปัว อ.เชียงกลาง และอ.เมือง นิยมปลูกช่วงหน้าแล้ง เพราะใช้เวลาปลูกเพียง 2 เดือนครึ่ง หรือราว 70-80 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ แต่ปีนี้ภัยแล้งมาเร็วกว่าทุกปี จึงทำให้เกษตรกรที่เคยปลูกตามห้วงเวลาเดิม ประสบปัญหาข้าวโพดเป็นราน้ำค้างดังกล่าว
รายงานข่าวจากจังหวัดน่านแจ้งว่า เกษตรกรปลูกข้าวโพดหวาน เพื่อขายสร้างรายได้ช่วงแล้งที่จะมีราคาดี กำลังหมดหวังเพราะภัยแล้งคุกคาม ใบเริ่มมีสีเหลือง ลำต้นแคระแกรน นักวิชาการเกษตรเผยเป็นโรคราน้ำค้าง สาเหตุมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด
นายบุญมี ธรรมสอน อายุ74 ปี บ้านเลขที่ 86 ม.4 ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง เกษตรกรปลูกข้าวโพด กล่าวว่า ตนได้ปลูกข้าวโพด เมื่อต้นมกราคม 2552 ที่ผ่านโดยทุกปีก็ปลูกช่วงนี้ในพื้นที่ใกล้น้ำ ขายทำรายได้ในฤดูแล้งเป็นเงินหลายหมื่นบาท แต่ปีนี้จากปัญหาภัยแล้งที่มาเร็วกว่าปกติ จึงทำให้ข้าวโพดหวานที่ปลูกประสบปัญหา ข้าวโพดเป็นรา
ในปีก่อนและปีผ่านๆ มา ตนจะปลูกข้าวโพดหวานในราวเดือนมกราคม มาตลอดและไม่เคยประสบปัญหาโรคแบบนี้ ที่เดิมมักระบาดในข้าวโพดหวานที่เริ่มปลูกในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป แต่ปีนี้หน้าร้อนมาเร็วกว่าทุกปี อีกทั้งสภาพอากาศยังแปรปรวน ตอนเช้ามีหมอกลงอากาศเย็น กลางวันกลับร้อนจัดแดดเปรี้ยงและร้อนเร็วกว่าทุกปี ทำให้ข้าวโพดหวานไม่สามารถปรับตัวกับสภาพอากาศได้ทัน จึงทำให้ใบของต้นข้าวโพดมีจุดด่างขาว หากปล่อยไว้นานเข้าจะทำให้ต้นข้าวโพดเหี่ยว ใบลีบ เป็นรูคล้ายโดนแมลงเจาะ พอเข้าฝักข้าวโพดก็จะมีฝักเล็กแคระแกรน เมล็ดเล็กลีบ ไม่มีน้ำหนัก ขายไม่ได้ราคา
นอกจากนี้ เกษตรกรปลูกข้าวโพดอีกหลายรายในพื้นที่ใกล้เคียงก็ประสบปัญหาแบบเดียวกัน จึงอยากขอให้ทางเกษตรจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาช่วยดูแลแนะนำหรือหายาที่ใช้กำจัดโรคนี้ได้ผลดี และหาวิธีกำจัดปัญหาราน้ำค้างในระยะยาวให้ เพราะที่ผ่านมาพวกเกษตรกรก็ได้ใช้สารชีวภาพหลายชนิด แต่ก็ยังไม่ได้ผล หากจะใช้สารเคมีรุนแรงก็เกรงจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะอาจตกค้างในฝักข้าวโพดหวานได้ แถมยังเพิ่มต้นทุนการผลิตอีกมากเกรงจะขาดทุนไปมากกว่าที่เห็น
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน กล่าวว่า สำหรับปัญหาข้าวโพดเป็นแบบนี้เกิดจากโรคราน้ำค้าง ที่มีสาเหตุเป็นเพราะอากาศในพื้นที่จังหวัดน่าน ช่วงเช้ายังมีหมอกลงและอากาศเย็น แต่ในช่วงกลางวันอากาศจะร้อนจัดและแล้งมาก
ปีนี้สภาพอากาศร้อนแบบนี้มาเร็วกว่าปกติ เมื่ออากาศเย็นกระทบร้อน จึงส่งผลให้ข้าวโพดปรับสภาพไม่ได้ ใบเริ่มเป็นจุดขาวด่างแล้วก็เริ่มเหี่ยวไปจนไหม้ พอพื้นที่ใบมีสีเขียวน้อย ทำให้การปรุงอาหารไปเลี้ยงฝักลดลง ส่งผลให้ฝักจะเล็กแกรน เมล็ดไม่สมบูรณ์ น้ำหนักเบา
ข้าวโพดหวานเป็นพืชอายุสั้น ที่เกษตรกรในพื้นที่ชลประทาน หรือพื้นที่ที่น้ำเข้าถึง โดยเฉพาะ 2 ฝั่งลำน้ำน่าน บริเวณ อ.ท่าวังผา อ.ปัว อ.เชียงกลาง และอ.เมือง นิยมปลูกช่วงหน้าแล้ง เพราะใช้เวลาปลูกเพียง 2 เดือนครึ่ง หรือราว 70-80 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ แต่ปีนี้ภัยแล้งมาเร็วกว่าทุกปี จึงทำให้เกษตรกรที่เคยปลูกตามห้วงเวลาเดิม ประสบปัญหาข้าวโพดเป็นราน้ำค้างดังกล่าว