เอเอฟพี - คณะแพทย์ออสเตรเลียประสบความสำเร็จเกินคาด เมื่อช่วยให้ชายคนหนึ่งที่มีปัญหากับเลือดในสมองกลับมาเดินได้อีกครั้ง ด้วยการฉีดสารชีวภาพ “โบท็อกซ์” ที่ใช้ลดรอยเหี่ยวย่นบนใบนหน้าให้แก่คนไข้ หลังเป็นอัมพาตต้องนั่งในล้อเข็นมากว่า 20 ปี
รัสเซลล์ แม็กฟี วัย 49 ปี นั่งรถเข็นมานาน หลังจากเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อ 23 ปีก่อน จนทำให้เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถึงขนาดที่แพทย์บอกเขาในช่วงต้นว่าเขาอาจจะไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล แต่หลังจากฉีดโบท็อกซ์ อันเป็นวิธีการต่อต้านร่องรอยความแก่ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนดังของฮอลลีวูด แม็กฟีก็สามารถเดินรอบๆ บ้านของเขาได้โดยที่ไม่ต้องให้ใครช่วย และสามารถเดินได้ไกลถึง 100 เมตร โดยการใช้ไม้เท้า
“ผมคิดว่าจะต้องตายบนรถเข็นเสียแล้ว” แม็กฟีบอกกับเอเอฟพีด้วยความดีใจ
อดีตคนงานขายเนื้อยอมรับว่า ทีแรกเขาและแฟนสาว แคร์รี ครอสลีย์ ก็เคลือบแคลงเมื่อแพทย์บอกว่าจะใช้วิธีการรักษาแบบนี้
โบท็อกซ์ คือชื่อการค้าของสารชีวภาพ “โบทูลินัม ท็อกซิน” ที่ช่วยขวางสัญญาณประสาทที่สั่งให้กล้ามเนื้อหดตัว ช่วยให้รอยเหี่ยวเรียบลงได้เมื่อฉีดบนใบหน้า และก็ยังสามารถช่วยคนไข้ที่เดินไม่ได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบทางสมอง ความผิดปกติของกล้ามเนื้อ ไขสันหลัง และจากปัญหาเส้นเลือดในสมองได้อีกด้วย
วาเลนตินา เมริก นักกายภาพบำบัดของโรงพยาบาลเซนต์จอห์นออฟก็อด ในรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย อธิบายว่า แม็กฟีไม่สามารถเดินได้เพราะอาการจากเส้นเลือดในสมองทำให้กล้ามเนื้อของเขาหดเกร็งอย่างถาวร แต่โบท็อกซ์ช่วยหยุดการหดเกร็งทำให้กล้ามเนื้อขาของเขาขยายออกไปได้เป็นครั้งแรก และยังช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ แข็งแรงขึ้นด้วย
เธอกล่าวว่า กล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้การมานานอาจจะอ่อนเปลี้ยไปเป็นธรรมดา แต่กรณีของแม็กฟีนั้นกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว หลังจากเขาเริ่มการรักษาเมื่อ 18 เดือนก่อน ซึ่งโบท็อกซ์ช่วยอย่างมาก
ด้าน ดร.นาธาน จอห์น กลับชื่นชมความมุ่งมันของคนไข้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขามีพัฒนาการดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะไม่ใช่ทุกรายที่จะประสบความสำเร็จ และกล้ามเนื้อของแม็กฟีมีกำลังอดีอย่างผิดธรรมดาและเขาก็มีแรงใจสูงมาก แม้ว่าต้องติดอยู่กับรถเข็นมานานมากแล้ว
ด้าน แม็กฟีกล่าวว่า เขาเอาชนะความเจ็บปวดและต้องทำอะไรมามาก ไม่ใช่แค่เพียงแต่ฉีดโบท็อกซ์และก็กลับมาเดินได้ในชั่วข้ามคืน เขาเผยว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจจากแฟนสาว ซึ่งเป็นหวานใจมาตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งช่วยให้กำลังใจเขาให้ผ่านพ้นจากความซึมเศร้าและบอกให้เขาเข้ามารับการรักษาฟื้นฟู เมื่อทั้งคู่ได้กลับมาคบกันอีกครั้ง เมื่อ 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา
ด้วยความช่วยเหลือจากแคร์รี และคณะแพทย์ของโรงพยาบาลเซนต์จอห์นออฟก็อด แม็กฟีหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะไม่จำเป็นต้องฉีดโบท็อกซ์ที่ขาและแขนทุก 3 เดือนอีกต่อไป แม็กฟีบอกความมุ่งมันว่า เขาจะทำกายภาพบำบัดจนทำให้กล้ามเนื้อที่เสียไปแข็งแรงมากขึ้น และวางแผนว่าจะแต่งงานในอนาคตด้วย
