การประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมใช้เวลาในการแสดงความคิดเห็นถึงข้อสรุปการตั้งคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ ประกอบด้วย อนุกรรมการศึกษาการสมานฉันท์ อนุกรรมการศึกษาการปฏิรูปการเมือง และอนุกรรมการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรรมการฯ มีความเห็นแย้งกันในการจัดตั้งคณะอนุกรรมการ โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เสนอให้อนุกรรมการทั้ง 3 คณะ และเดินหน้าเร่งพิจารณาทั้ง 3 กรณีในห้องประชุมใหญ่ เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วใน 45 วัน
แต่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เสนอให้คงไว้ หากให้การทำงานในภาพรวมเร็วขึ้น พร้อมเสนอให้ยุบ 1 คณะ คืออนุกรรมการศึกษาการสมานฉันท์ แต่คงไว้ 2 อนุกรรมการ คือ การปฏิรูปการเมือง และแก้ไขรัฐธรรมนูญ
หลังจากนั้น นายดิเรก ถึงฝั่ง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เปิดโอกาสให้คณะกรรมการแสดงความเห็นแก้ไข 2 ชั่วโมง โดยท้ายสุด นายเสนาะ เทียนทอง ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ เสนอแนะแนวทางปราศจากการเลือกข้าง พร้อมเปิดเผยว่า วานนี้ได้ร่วมงานเลี้ยงพรรคเพื่อไทย ทำความเข้าใจให้เกิดความปรองดองเพื่อบ้านเมือง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เจรจาว่าจะเป็นรัฐบาลต่อไป ซึ่งอาจทำให้ลำบากต่อการบริหารงานการเมือง เพราะมีหลายกลุ่มไม่เห็นด้วย พร้อมปฏิเสธว่าการทำงานทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้เป็นผู้ดำเนินการ
ด้านนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ใช้สิทธิ์ชี้แจงว่า นายเสนาะ จับคู่ความขัดแย้งผิดไปจากข้อเท็จจริง ไม่ใช่ความขัดแย้งของรัฐบาลกับฝ่ายค้าน แต่เป็นความขัดแย้งขององค์กรภายนอก กลุ่มบุคคลภายนอก และประชาชน ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เห็นถึงความขัดแย้งและยกเข้ามาในสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นควรแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม
ขณะที่นายเสนาะ ได้ชี้แจงอีกครั้งว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ต้องร่วมกันแก้ไข เพราะบุคคล 2 กลุ่มมีหลักการเฉพาะกลุ่ม จึงเกิดความขัดแย้งขึ้น
ทั้งนี้ หลังการแสดงความเห็น นายดิเรก ได้ใช้วิธีการลงมติให้ความเห็นของแต่ละคน ระหว่างยุบทั้ง 3 คณะ กับคงไว้ทั้งหมด หรือยุบเพียงอนุกรรมการเดียว ล่าสุด ที่ประชุมเห็นควรคงอนุกรรมการทั้ง 3 คณะไว้ ด้วยคะแนน 15 ต่อ 12
แต่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เสนอให้คงไว้ หากให้การทำงานในภาพรวมเร็วขึ้น พร้อมเสนอให้ยุบ 1 คณะ คืออนุกรรมการศึกษาการสมานฉันท์ แต่คงไว้ 2 อนุกรรมการ คือ การปฏิรูปการเมือง และแก้ไขรัฐธรรมนูญ
หลังจากนั้น นายดิเรก ถึงฝั่ง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เปิดโอกาสให้คณะกรรมการแสดงความเห็นแก้ไข 2 ชั่วโมง โดยท้ายสุด นายเสนาะ เทียนทอง ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ เสนอแนะแนวทางปราศจากการเลือกข้าง พร้อมเปิดเผยว่า วานนี้ได้ร่วมงานเลี้ยงพรรคเพื่อไทย ทำความเข้าใจให้เกิดความปรองดองเพื่อบ้านเมือง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เจรจาว่าจะเป็นรัฐบาลต่อไป ซึ่งอาจทำให้ลำบากต่อการบริหารงานการเมือง เพราะมีหลายกลุ่มไม่เห็นด้วย พร้อมปฏิเสธว่าการทำงานทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้เป็นผู้ดำเนินการ
ด้านนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ใช้สิทธิ์ชี้แจงว่า นายเสนาะ จับคู่ความขัดแย้งผิดไปจากข้อเท็จจริง ไม่ใช่ความขัดแย้งของรัฐบาลกับฝ่ายค้าน แต่เป็นความขัดแย้งขององค์กรภายนอก กลุ่มบุคคลภายนอก และประชาชน ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เห็นถึงความขัดแย้งและยกเข้ามาในสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นควรแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม
ขณะที่นายเสนาะ ได้ชี้แจงอีกครั้งว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ต้องร่วมกันแก้ไข เพราะบุคคล 2 กลุ่มมีหลักการเฉพาะกลุ่ม จึงเกิดความขัดแย้งขึ้น
ทั้งนี้ หลังการแสดงความเห็น นายดิเรก ได้ใช้วิธีการลงมติให้ความเห็นของแต่ละคน ระหว่างยุบทั้ง 3 คณะ กับคงไว้ทั้งหมด หรือยุบเพียงอนุกรรมการเดียว ล่าสุด ที่ประชุมเห็นควรคงอนุกรรมการทั้ง 3 คณะไว้ ด้วยคะแนน 15 ต่อ 12