นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุผลที่รัฐบาลเตรียมใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงสำหรับดูแลความสงบเรียบร้อยการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่ จ.ภูเก็ต ว่า ถือเป็นเครื่องมือของรัฐบาลที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย และความสะดวกในการนำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ มาช่วยในการทำงานด้านความมั่นคง ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่คล่องตัวมากขึ้น รวมถึงป้องกันสถานการณ์ความวุ่นวาย ซึ่งดีกว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ เชื่อว่าหากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน สำหรับผู้นำประเทศต่างๆ ขณะนี้ส่งสัญญาณเชิงบวก มีเพียงประเทศอินเดียเท่านั้นที่ติดภารกิจการเลือกตั้งของประเทศ
ส่วนการดูแลความปลอดภัย นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการรักษาความปลอดภัยแล้ว และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลโดยตรง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันในการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ย่านพัฒน์พงษ์ ว่า ได้คุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้ว ซึ่งจำเป็นต้องเดินหน้าปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายและเผชิญกับอิทธิพล แต่หากพบว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติเกินกว่าเหตุก็ต้องดำเนินการ ซึ่งมาตรการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายรัฐบาลจะนำมาทบทวนถึงการดำเนินการอีกครั้ง
ทั้งนี้ เชื่อว่าหากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน สำหรับผู้นำประเทศต่างๆ ขณะนี้ส่งสัญญาณเชิงบวก มีเพียงประเทศอินเดียเท่านั้นที่ติดภารกิจการเลือกตั้งของประเทศ
ส่วนการดูแลความปลอดภัย นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการรักษาความปลอดภัยแล้ว และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลโดยตรง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันในการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ย่านพัฒน์พงษ์ ว่า ได้คุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้ว ซึ่งจำเป็นต้องเดินหน้าปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายและเผชิญกับอิทธิพล แต่หากพบว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติเกินกว่าเหตุก็ต้องดำเนินการ ซึ่งมาตรการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายรัฐบาลจะนำมาทบทวนถึงการดำเนินการอีกครั้ง