นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีข้อเสนอของกองทัพที่อยากให้ใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ดูแลการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่ จ.ภูเก็ต โดยระบุว่า พระราชบัญญัติถือเป็นเครื่องมือหนึ่งของรัฐบาล ก็จะมีการพิจารณาดู และมีเงื่อนไขอยู่แล้ว โดยจะทำให้มีมาตรการในการป้องกันมากขึ้น และเจ้าหน้าที่ทำงานได้คล่องตัว โดยจะดีกว่าถ้าหากประกาศก่อนเกิดเหตุ และจะสามารถใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารได้ด้วย โดยได้มีการจัดระบบใหม่ในการดูแลความปลอดภัยในการประชุมครั้งนี้ และเห็นว่าหากมีกฎหมายเป็นรูปธรรมจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม จะดูแลการประชุมอย่างเต็มที่ และทุกประเทศมีความมั่นใจและตอบรับในทางบวก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงกรณีเหตุปะทะกันที่พัฒน์พงษ์ ว่า ได้พูดคุยกับนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แล้ว ยังจำเป็นต้องเดินหน้าปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายและเผชิญกับอิทธิพลต่อไป แต่หากพบว่าปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุต้องดำเนินการ และจะมีการทบทวนดูมาตรการ
อย่างไรก็ตาม จะดูแลการประชุมอย่างเต็มที่ และทุกประเทศมีความมั่นใจและตอบรับในทางบวก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงกรณีเหตุปะทะกันที่พัฒน์พงษ์ ว่า ได้พูดคุยกับนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แล้ว ยังจำเป็นต้องเดินหน้าปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายและเผชิญกับอิทธิพลต่อไป แต่หากพบว่าปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุต้องดำเนินการ และจะมีการทบทวนดูมาตรการ