นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมผู้จัดการสาขา ธอส.ทั่วประเทศ ว่า ได้กำชับ และให้ดูแลเรื่องพฤติกรรมการทำงานของพนักงาน ธอส.ทุกสาขาอย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดเหตุและตรวจพบการกระทำของนายสมเกียรติ ปัญญาวรคุณเดช พนักงานธุรกิจสาขาอาวุโส ธอส.ประจำสาขาเซนต์หลุยส์ 3 ยักยอกเงินของธนาคารกว่า 400 ล้านบาท โดยขอให้ผู้จัดสาขาแต่ละแห่งทั่วประเทศได้ชี้แจงลูกค้าผู้ฝากเงินในวันจันทร์นี้ (4 พ.ค.) เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก โดยปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการยักยอกทรัพย์ของธนาคาร ไม่ได้มีการยักยอกทรัพย์จากบัญชีของลูกค้าแต่อย่างใด เพราะเป็นบัญชีรายจ่ายของธนาคารที่เตรียมดอกเบี้ยไว้จ่ายผู้ฝากเงิน
นอกจากนี้ ยังได้ให้ผู้จัดการสาขากับไปดูความผิดปกติในการทำงานในสาขาของตนเองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นมาอีก โดยเฉพาะควรตรวจสอบความผิดปกติในระดับต่าง ๆ และให้ดูไปถึงพฤติกรรมพนักงานของแต่ละคน เช่น มีลักษณะติดหนี้พนันฟุตบอล หรือมีการใช้จ่ายเกินรายได้หรือไม่ หากพบข้อสงสัยก็ให้มีการโยกย้ายไม่ให้มีการทำงานเกี่ยวข้องกับบัญชีต่าง ๆ ต่อไป โดยกรณีของนายสมเกียรติ พบว่า เป็นหนี้พนันบอล กว่า 40 ล้านบาท และมีการนำเงินไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อฟอกเงิน
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมติดตามทรัพย์สินในขณะนี้คาดว่าจะได้คืนทั้งในรูปเงินสดและทรัพย์สินต่างๆ กว่า 200 ล้านบาท ซึ่ง ธอส.จะพยายามติดตามให้ได้มากที่สุด แม้ว่าอาจจะได้ไม่ครบทั้ง 400 ล้านบาทก็ตาม
นอกจากนี้ ยังได้ให้ผู้จัดการสาขากับไปดูความผิดปกติในการทำงานในสาขาของตนเองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นมาอีก โดยเฉพาะควรตรวจสอบความผิดปกติในระดับต่าง ๆ และให้ดูไปถึงพฤติกรรมพนักงานของแต่ละคน เช่น มีลักษณะติดหนี้พนันฟุตบอล หรือมีการใช้จ่ายเกินรายได้หรือไม่ หากพบข้อสงสัยก็ให้มีการโยกย้ายไม่ให้มีการทำงานเกี่ยวข้องกับบัญชีต่าง ๆ ต่อไป โดยกรณีของนายสมเกียรติ พบว่า เป็นหนี้พนันบอล กว่า 40 ล้านบาท และมีการนำเงินไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อฟอกเงิน
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมติดตามทรัพย์สินในขณะนี้คาดว่าจะได้คืนทั้งในรูปเงินสดและทรัพย์สินต่างๆ กว่า 200 ล้านบาท ซึ่ง ธอส.จะพยายามติดตามให้ได้มากที่สุด แม้ว่าอาจจะได้ไม่ครบทั้ง 400 ล้านบาทก็ตาม