xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลเดินหน้าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจล็อต 2 ครอบคลุมทุกด้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบที่ 2 โดยคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้อนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 ซึ่งมีหลักการคือ เมื่อประเทศไทยสามารถประคองเศรษฐกิจในช่วง 4-5 เดือนข้างหน้าไปได้แล้ว รัฐบาลจะเตรียมจัดทำงบประมาณ ปี 2553 และต่อเนื่องไปอีก 3 ปีข้างหน้า โดยรัฐบาลถือว่าเป็นช่วงเวลาที่จะต้องใช้การลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเตรียมความพร้อมสำหรับเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้น คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจจึงนำเรื่องของแผนการลงทุนทั้งหลายในภาครัฐและอาจจะร่วมกับภาคเอกชนพิจารณา โดยเห็นว่าการลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้า ควรมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งจะครอบคลุมการลงทุนในทุกๆ ด้าน เพื่อที่จะเสริมหรือเพิ่มความพร้อมให้กับประเทศ อาทิ เรื่องความมั่นคงของประเทศในเรื่องอาหารและพลังงานทดแทน คือจะทำอย่างไรที่จะเพิ่มผลิตผล หรือประสิทธิภาพในการผลิตในภาคการเกษตร ซึ่งหัวใจสำคัญคือเรื่องของการลงทุนด้านแหล่งน้ำ เพื่อที่จะให้ประชาชนกว่า 1 ล้านครัวเรือน ได้รับประโยชน์จากชลประทาน หรือการกระจายน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 20 ล้านไร่ ในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นเรื่องของระบบขนส่ง ระบบลอจิสติกส์ โครงการถนนไร้ฝุ่น และโครงการรถไฟรางคู่ ก็จะมีการดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยจะเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น และเปิดช่องทางเพื่อที่จะระบายสินค้าของท้องถิ่นออกสู่ตลาด การพัฒนาเศรษฐกิจให้สร้างมูลค่าจากแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การลงทุนเพื่อเสริมความพร้อมในการพัฒนาคนด้านการศึกษาและสาธารณสุข ทั้งในเรื่องศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและการสาธารณสุขเชิงรุก โดยจะมีการยกระดับสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพในระดับตำบล โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ในแผนการลงทุน 1.5 ล้านล้านบาท
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขั้นต่อไปของการดำเนินงาน จะมีการคัดกรองโครงการที่จะเข้าข่าย โดยมีหลักสำคัญคือ ต้องพร้อมที่จะมีการดำเนินการและมุ่งจ้างงานคนให้มากที่สุด เพื่อที่จะรองรับกับวิกฤตเศรษฐกิจ โดยในส่วนของเรื่องแหล่งเงินทุนจะมาจาก 3 ด้าน ด้านแรกคืองบประมาณปกติ ด้านที่ 2 คือ พิจารณาว่าโครงการใดที่จะสามารถดำเนินงานร่วมกับภาคเอกชนได้ รัฐบาลก็จะมีการชดเชยค่าใช้จ่ายในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และด้านที่ 3 เป็นเรื่องของเงินกู้ โดยรัฐบาลจะพิจารณากรอบของเงินกู้ให้ไม่กระทบกับเสถียรภาพและวินัยทางการเงิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมั่นใจว่า โครงการทั้งหมดจะมีผลตอบแทนกลับคืนมา และเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ประเทศจะอยู่ในฐานะที่จะสามารถใช้หนี้เหล่านี้ได้ โดยไม่กระทบกระเทือนกับคุณภาพชีวิตและมาตรฐานการครองชีพของประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น