นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในขณะนี้ ว่า ราคาสินค้าต่างๆ ลดลงไปมาก โดยไม่ต้องใช้กลไกในการควบคุมกดดันการลดราคา เพราะภาวะการค้าที่ชะลอตัว ซึ่งสินค้าที่กรมการค้าภายในดูแลกว่า 200 รายการนั้น ราคาลดลงไปแล้วกว่า 180 รายการ เหลือเพียง 19-20 รายการเท่านั้นที่ยังไม่ได้ปรับลดราคา เพราะความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ เช่น นมถั่วเหลือง และน้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น
ส่วนสินค้าที่มีแนวโน้มลดราคาลงอีก ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ผงชูรส และเหล็ก ซึ่งแม้ต้นทุนจะยังไม่ปรับราคาลดลงมากนัก แต่จากความต้องการที่ลดลงทำให้ผู้ค้าต้องยอมลดราคาลง ขณะที่สินค้าที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ได้แก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ ผักและผลไม้บางชนิด เช่น ผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักบุ้งจีน และมะนาว เป็นต้น ซึ่งปรับราคาขึ้นตามฤดูกาลผลิต และสภาพแวดล้อมที่ในช่วงฤดูร้อน จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ทำให้ราคาสูงขึ้น
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ราคาสินค้าเช่นนี้ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมนี้ ไม่น่าจะปรับตัวลดลงถึงขั้นติดลบเหมือน 2 เดือนที่ผ่านมา เพราะราคาสินค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ลดลงมาก หรืออยู่ในระดับทรงตัว นอกจากนี้ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล น่าจะทำให้ประชาชนใช้จ่ายเพิ่มขึ้นได้ และไม่น่าจะเกิดภาวะเงินฝืด เพราะผู้ประกอบการยังผลิตสินค้าออกมาจำหน่าย และประชาชนยังจับจ่ายใช้สอยในระดับที่ไม่ลดลงมากนัก
ส่วนสินค้าที่มีแนวโน้มลดราคาลงอีก ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ผงชูรส และเหล็ก ซึ่งแม้ต้นทุนจะยังไม่ปรับราคาลดลงมากนัก แต่จากความต้องการที่ลดลงทำให้ผู้ค้าต้องยอมลดราคาลง ขณะที่สินค้าที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ได้แก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ ผักและผลไม้บางชนิด เช่น ผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักบุ้งจีน และมะนาว เป็นต้น ซึ่งปรับราคาขึ้นตามฤดูกาลผลิต และสภาพแวดล้อมที่ในช่วงฤดูร้อน จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ทำให้ราคาสูงขึ้น
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ราคาสินค้าเช่นนี้ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมนี้ ไม่น่าจะปรับตัวลดลงถึงขั้นติดลบเหมือน 2 เดือนที่ผ่านมา เพราะราคาสินค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ลดลงมาก หรืออยู่ในระดับทรงตัว นอกจากนี้ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล น่าจะทำให้ประชาชนใช้จ่ายเพิ่มขึ้นได้ และไม่น่าจะเกิดภาวะเงินฝืด เพราะผู้ประกอบการยังผลิตสินค้าออกมาจำหน่าย และประชาชนยังจับจ่ายใช้สอยในระดับที่ไม่ลดลงมากนัก
