พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้มีคำสั่งที่ 380/2552 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2552 ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย บริษัทสัมพันธ์ประกันภัย จำกัด ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2552 นั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารของบริษัทดังกล่าวและผู้เกี่ยวข้อง กรณีมีพฤติการณ์ยักยอกทรัพย์สินของบริษัท ปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม เพื่อแสดงว่าบริษัทมีเงินกองทุนครบถ้วนตามกฎหมาย โดยคดีมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,000 ล้านบาท ในการสอบสวนคดีนี้ดีเอสไอได้แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน และทำการสอบสวนปากคำพยานแล้ว 78 ราย พร้อมได้แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 15 ราย ความผิดตาม พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 ประกอบด้วย ความผิดฐานการจัดสรรทรัพย์สินไม่เพียงพอ ขาดเงินกองทุน ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานฯ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสอบสวนปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่าบริษัทฯ ได้โอนทรัพย์สินประเภทที่ดินในหลายท้องที่ทั่วประเทศให้กับบุคคลภายนอก สำนักงาน คปภ.จึงร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินคดีเพิ่มเติม ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างประสานการตรวจสอบร่วมกับ คปภ. เพื่อตรวจสอบมูลค่าความเสียหาย และเนื่องจากคดีนี้เป็นการทุจริตทางบัญชี มีเอกสารที่จะต้องตรวจพิสูจน์ และพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ดีเอสไอได้เร่งรัดดำเนินการและจะได้สรุปสำนวน ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสอบสวนปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่าบริษัทฯ ได้โอนทรัพย์สินประเภทที่ดินในหลายท้องที่ทั่วประเทศให้กับบุคคลภายนอก สำนักงาน คปภ.จึงร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินคดีเพิ่มเติม ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างประสานการตรวจสอบร่วมกับ คปภ. เพื่อตรวจสอบมูลค่าความเสียหาย และเนื่องจากคดีนี้เป็นการทุจริตทางบัญชี มีเอกสารที่จะต้องตรวจพิสูจน์ และพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ดีเอสไอได้เร่งรัดดำเนินการและจะได้สรุปสำนวน ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป
